ข่าวจริง!! ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ หมายเลข 7 และหมายเลข 9 ช่วงเทศกาลปีใหม่

วันที่ 19 ธ.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวจริง เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อต่างๆ ประเด็นเรื่อง ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ หมายเลข 7 และหมายเลข 9 ช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอว่า เนื่องจากวันหยุดราชการประจำปีกำหนดให้วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2564 เป็นวันหยุดสิ้นปี และวันจันทร์ที่ 3 มกราคม 2565 เป็นวันหยุดชดเชยวันขึ้นปีใหม่ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี พ.ศ. 2565 ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2565 รวม 4 วัน ดังนั้นจึงคาดหมายได้ว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา เป็นผลให้การจราจรติดขัดในทุกสายทางที่ออกและเข้ากรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเฉพาะบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งคาดว่าจะมีปัญหาการจราจรติดขัดหลายกิโลเมตร เนื่องจากประชาชนรอชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน-บางพลี และตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน ในวันหยุดต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เพื่อช่วยสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้การจราจรมีความคล่องตัว ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดภาระค่าครองชีพของประชาชน รวมทั้งเป็นการลดการใช้พลังงานของประเทศ และลดมลพิษทางอากาศ คณะรัฐมนตรีจึงเห็นสมควรยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน-บางพลี ตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี 2565 ตั้งแต่เวลา 00.01 นาฬิกา ของวันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม 2564 ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันจันทร์ที่ 3 มกราคม 2565 และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th/th หรือโทร. 02-618-2323

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น