เชียงใหม่ ออกมาตรการเตรียมพร้อมป้องกันโควิด-19 ช่วงเทศกาลปีใหม่

วันนี้ (21 ธ.ค. 64) ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวัน ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 57 ราย ซึ่งต่ำกว่า 100 ราย มา 12 วันแล้ว โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ 3 ราย มาจากกรุงเทพมหานคร 1 ราย แม่ฮ่องสอน 1 ราย และจากประเทศเวียดนาม ตามโปรแกรมการท่องเที่ยวแบบ Test and Go 1 ราย ขณะนี้ได้ติดตามกลุ่มเสี่ยงสูง นำเข้าแยกกักในโรงพยาบาลและส่งตรวจหาสายพันธุ์แล้ว

อีก 54 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่ และคลัสเตอร์ที่ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง 3 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ใหม่ร้านอาหารแมซ ซอยโรงแรมเชียงคำ เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 1 ราย, คลัสเตอร์ใหม่ร้านปิ้งย่างหม่าล่า Hot6 ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย 1 ราย และคลัสเตอร์ใหม่บริษัทน็อทเทริน แอดไวท์เซอร์ ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย 1 ราย ขณะนี้ทีมควบคุมโรคในทุกพื้นที่ได้ลงทำการควบคุมโรค ตรวจคัดกรองเชิงรุกแยกกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ ฆ่าเชื้อในพื้นที่ และสอบสวนโรคแล้ว ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 3 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ 2 ราย และ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ 1 ราย นอกจากนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อที่สัมผัสจากผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้าอีก 28 ราย และมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 20 ราย ขณะที่การติดเชื้อในกลุ่มครอบครัว ไม่พบกลุ่มก้อนการระบาดใหม่

สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ขณะนี้พบกระจายไปแล้ว 90 ประเทศ ทั้งในทวีปยุโรป แอฟริกา เอเชีย และอเมริกา โดยประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้แล้ว 63 ราย ซึ่งการแพร่กระจายของสายพันธุ์ Omicron จะเร็วกว่าสายพันธุ์ Delta ส่วนความรุนแรงของโรคยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพบว่าประสิทธิภาพวัคซีนต่อสายพันธุ์นี้ลดลง แต่จากข้อมูลการศึกษาพบว่าประสิทธิภาพของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน 3 เข็ม จะดีกว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีมติในการเตรียมความพร้อมช่วงเทศกาลปีใหม่ คือ เร่งการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ให้ครอบคลุม, เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนป้องกันโรคด้วยหลักการป้องกันโรคแบบครอบจักรวาล หรือ Universal Prevention โดยเฉพาะในกิจกรรมการรวมตัว และกิจกรรมรื่นเริงต่าง ๆ, ร้านอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 5 อำเภอ จะต้องผ่านการประเมินตามมาตรฐาน COVID Free Setting ก่อน จึงจะให้บริการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ โดยมีทีมศูนย์ปฏิบัติการอำเภอสุ่มประเมิน ถ้าร้านใดร้านหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอาจพิจารณาสั่งปิดให้บริการทุกร้าน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการในการจัดจุดบริการตรวจ ATK และบริการฉีดวัคซีน ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เดินทางเข้ามาในช่วงนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น