(มีคลิป) เร่งหาเบาะแสศพหนุ่มใหญ่ ถูกมีดปาดคอในบ้าน พบเขียนจดหมายลาตาย ตร.ยังไม่ทิ้งประเด็นฆาตกรรมอำพร่าง

ช่วงเย็นวันนี้ (21 ธ.ค.64) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 พร้อมก้วย พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน , เจ้าหน้าที่แพทย์นิติเวช , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมใจเชียงใหม่ เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในบ้านพัก ถนนราชวงศ์ ถนน ราชวงศ์ ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ ภายหลังรับแจ้งเหตุพบศพคนเสียชีวิต

โดยในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ตรวจสอบทราบชื่อคือ นายสฤษฏ์ อายุ 65 ปี สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องโถงของบ้าน บริเวณร่างกายพบบาดแผลถูกของมีคมบาดบริเวณลำคอเป็นแผลลึก ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบมีดทำครัวยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ตกอยู่ นอกจากนี้ยังพบจดหมายเขียนด้วยลายมือเป็นใจความลักษณะลาตาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจสอบ

ขณะเดียวกัน จากการสอบถามพยานที่เกิดเหตุทราบว่า ผู้ตายมีลักษณะเป็นคนสันโดษชอบเก็บตัวอยู่ลำพังไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และก่อนหน้านี้ ยังใช้ชีวิตปกติ จนกระทั่งวันนี้ไม่มีใครพบเห็นผู้ตายออกจากบ้าน ต่อมาช่วงเย็นวันนี้ทางคนรู้จักผู้ตาย ได้มาหาที่บ้านและพยายามเรียกหา แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้เปิดหน้าต่างดูก็พบผู้ชายคนดังกล่าวนอนจมกองเลือดอยู่บริเวณภายในบ้าน จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาตรวจสอบ แต่ปรากฎว่าประตูบ้านถูกล็อคอยู่จึงได้ช่วยกันทำการพังประตูเข้าไป ก็พบชายคนดังกล่าวนอนเสียชีวิตโดยมีบาดแผลถูกของมีคมปาดบริเวณลำคอ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสาเหตุและข้อเท็จจริงนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ซึ่งอาจจะเป็นการฆ่าตัวตายแต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นการถูกฆาตรกรรม นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางเพื่อนบ้านได้มีการลงบันทึกประจำวันว่าผู้ตายและมีอาการคุ้มคลั่งและถือมีดออกจากบ้าน ก่อนจะมีการตะโกนเอะอะโวยวาย ทำให้เพื่อนบ้านหวาดกลัว ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้มีการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดอีกครั้งก่อนจะสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัด ส่วนผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่จะได้ส่งไปยังแผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เพื่อทำการตรวจชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตโดยละเอียด จากนั้นจะได้ประสานติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น