ลำปาง แจ้งสถานการณ์โรคโควิด-19 กรณีพบผู้ต้องขังเรือนจำกลางลำปางติดเชื้อโควิด-19

นายสิธิชัย จินตาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้เปิดเผยรายละเอียด กรณีพบผู้ต้องขังเรือนจำกลางลำปางติดเชื้อโควิด-19 ว่า เรือนจำกลางลำปางพบผู้ติดเชื้อ จำนวน 1 ราย เป็นผู้ต้องขังชาย เป็นผู้ต้องขังรายใหม่ อยู่ระหว่างการกักกันโรค ได้รับตัวเข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 แรกรับผู้ต้องขังแจ้งว่ามีอาการ ระบบทางทางเดินหายใจ คือ ไอมีเสมหะ มีน้ำมูกอาการเป็นเล็กน้อย ไม่มีไข้ ไม่มีหายใจเหนื่อย อุณหภูมิร่างกาย 36.7 C ทำการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK ผลการตรวจเป็นสบ
จากการซักประวัติมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากภรรยาติดเชื้อโคโรนา 2019 รักษาที่โรงพยาบาลลำปางก่อนหน้านี้ จึงมีการส่งตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR ผลเป็นบวก จึงส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลลำปาง จากการสอบสวนโรค พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย เป็นผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องเตียวกัน ไต้รับการกักตัว อยู่ในห้องกักกันโรคแรกรับภายในเรือนจำ ผู้สัมผัสเสียงต่ำจำนวน 14 ราย ได้รับการตรวจตัวยวิธี RT-PCR ผลเป็นลบ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางลำปาง จำนวน 3 ราย ให้ปฏิบัติหน้าที่ภายนอกเรือนจำ แยกออกจากเจ้าหน้าที่อื่นและผู้ต้องขัง รวมทั้งทำการส่งตรวจ RT-PCR วันที่ 7 และ วันที่ 14 หลังการสัมผัสผู้ต้องขังติดเชื้อ ให้สังเกตอาการตัวเองและยึดหลัก Social-distancing อย่างเคร่งครัต


ผู้ต้องขังซึ่งเป็นผู้ช่วยงานแดนแรกรับ จำนวน 2 ราย ให้ปฏิบัติงานกับผู้ต้องขังที่ให้ดูแล
แตนแรกรับด้วยกัน และแยกนอนเฉพาะกลุ่มเตียวกัน ทำการส่งตรวจ RT-PCR วันที่ 7 และ
วันที่ 14 หลังการสัมผัสผู้ต้องขังติดเชื้อ
ผู้ต้องขังเข้าใหม่ที่มาจากสถานีตำรวจอื่น แต่เข้าใหม่พร้อมกับผู้ติตเชื้อ เป็นผู้ต้องขังชาย
จำนวน 9 ราย แยกกักไว้ที่ห้องแรกรับอีกหนึ่งห้อง ทำการส่งตรวจ RT-PCR วันที่ 7 และ
วันที่ 14 หลังการสัมผัสผู้ต้องขังติดเชื้อ
ขณะนี้ยังไม่มีผู้ต้องขังที่อยู่ภายในเรือนจำติดเชื้อโดวิด-19 ซึ่งจังหวัดลำปางไต้เน้นย้ำในเรื่องการคัดกรองผู้ต้องขังแรกรับ และ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในเรือนจำอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อของผู้ต้องขังภายในเรือนจำ
อย่างไรก็ตาม เรือนจำกลางลำปางร่วมกับทีมบุคลากรสาธารณสุขได้เตรียม
ความพร้อมหากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ดังนี้


1. ประสานทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ในการขอใช้พื้นที่โรงพยาบาลสนามเพื่อแยกกัก ผู้ต้องขังที่สัมผัสผู้ติดเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อเข้าภายในเรือนจำ ทั้งในเรื่องของสถานที่ วัสดุ-อุปกรณ์ บุคลากร การจัดการสิ่งแวดล้อม และ การจัดการขยะติดเชื้อ
2. เตรียมความพร้อมเปิดโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ รองรับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ กรณีไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย (กลุ่มสีเขียว)
3. จัดระบบควบคุมป้องกันการติดเชื้อภายในเรือนจำ โดยเฉพาะเรื่องการคัดกรองผู้ต้องขังแรกรับ การทำความสะอาดสถานที่หรืออุปกรณ์ที่มีการใช้ร่วมกันระหว่างผู้ต้องขังแดนต่างๆ เช่น การใช้อุปกรณ์ในระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ (การไต่สวนโทษผ่านระบบวิติโอคอนเฟอร์เรนซ์)
4. ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2564 งดให้ญาติเยี่ยมเป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
โควิด-19 ให้กับผู้ต้องขัง

ร่วมแสดงความคิดเห็น