(มีคลิป) สาวเชียงราย แชร์ประสบการณ์หลังคลอด พบผ้าก๊อซยาว 1 เมตร ในช่องคลอด ด้าน ผอ.รพ.แจงไม่เป็นอันตราย

วันที่ 30 ธ.ค. 64 ผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง นำเรื่องราวที่พบเจอไปโพสต์ในเฟสบุ๊ก บอกเล่าเรื่องราวหลังการคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.เชียง ราย และตรวจพบผ้าก๊อซตกค้างในช่องคลอด หวั่นเกิดการติดเชื้อในอนาคต จึงนำเอามาโพสต์เตือนเป็นอุทาหรณ์

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปที่ น.ส.จินตนา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี บ้านสันทรายทอง ม.6 ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเจ็บท้องคลอดตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. จึงไปนอนรอคลอดที่โรงพยาบาล จนกระทั่งคลอดเมื่อเวลา 01.07 น. วันที่ 2 ธ.ค. และมีเลือดออกหลังคลอด ทางทีมแพทย์จึงนำเอาผ้าก๊อซมายัดในช่องคลอดเพื่อห้ามเลือด ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ได้ยินพยาบาลถามกันอยู่ว่าเอาผ้าก๊อซออกจากช่องคลอดหมดหรือยัง และมีการตอบกันว่าเอาออกหมดแล้ว ซึ่งหลังจากที่ออกจาก รพ.มาอยู่บ้านตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. ตนก็รู้สึกระคายเคืองที่ช่องคลอดบ่อยๆ ไปถามที่ รพ.สต.ก็ได้ยาสอดช่องคลอดมา และให้ดูอาการ

แต่เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนรู้สึกแปลกๆ ที่บริเวณช่องคลอด จึงเอามือล้วงดูก็เจอสิ่งลักษณะสากๆ มือ ก็เลยตัดสินใจใช้มือดึงออกจากช่องคลอด พบเป็นผ้าก๊อซยาวประมาณ 1 เมตร สีคล้ำ มีกลิ่นเหม็น จึงเรียกแฟนมาดู และพากันไปประสานที่ รพ.สต.ใกล้บ้าน เพื่อให้ประสานไปที่ห้องคลอดโรงพยาบาล ซึ่งจากการพูดคุยกับสายปลายทาง ได้ยินว่า ได้บอกให้คนป่วยไปเอาผ้าออกเองที่บ้าน ตนจึงสงสัยว่าตนจะเอาออกเองได้อย่างไร ถ้าอนาคตเกิดติดเชื้อขึ้นมาจะทำอย่างไร ทำไมหลังทราบเรื่องทางโรงพยาบาลจึงไม่รีบประสานมาหาตน เพื่อชี้แจงและแจ้งให้ตนไปตรวจภายในเพื่อประเมินอาการ

ด้าน ผอ.รพ.ตามที่ปรากฏในโพสต์ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า หลังจากทราบเรื่องตนได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบถาม เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวทราบว่า หลังคลอดผู้ป่วยมีอาการเลือดออกหลังคลอด ทีมพยาบาลจึงทำการช่วยเหลือโดยการใช้ผ้าก๊อซสอดเข้าไปกดทับแผลในช่องคลอด เพื่อห้ามเลือด และคาดว่าจะเอาผ้าออกมาไม่หมด แต่ก่อนออกจาก รพ.ได้กำชับให้ผู้ป่วยกลับมาหาหมอถ้ามีอาการผิดปกติ ซึ่งปกติถ้าไม่มาหาหมอนอกรอบ ก็จะมีการนัดตรวจดูอาการหลังคลอด 6 สัปดาห์อยู่แล้ว ซึ่งผ้าก๊อซที่พบถ้าออกจากร่างกายมาแล้ว ก็ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างได แต่ตนก็จะลงพื้นที่ไปพบกับผู้ป่วยในช่วงบ่ายของวันนี้ เพื่อเข้าไปสอบถามอาการ และกำหนดแนวทางการดูแลต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น