ลำปาง พบผู้ป่วยโควิด- 19 สายพันธุ์โอมิครอนรายที่ 2 ของจังหวัด

 

วันที่ 31 ธันวาคม 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย
นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้เปิดเผยสถานการณ์
ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด – 19 จังหวัดลำปาง (ตั้งแต่ วันที่ 27 มิถุนายน 2564-ปัจจุบัน) พบยอด
ผู้ป่วยสะสม 3,407 ราย หายแล้วกลับบ้านสะสม 3,226 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 153 ราย
และเสียชีวิตสะสม 28 ราย โดยวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 1 ราย เป็นผู้ติดเชื้อนอกจังหวัด 5 ราย
(กรุงเทพฯ 1 ภูเก็ต 3 เซียงใหม่ 1) และ เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด 16 ราย โดยเป็นผู้สัมผัสผู้ป่วย
Cluster พนักงานร้านสะดวกซื้อ 1 ราย (เกาะคา) Cluster อำเภองาว 5 ราย (งาว) Cluster หมู่ 2
ตำบลกล้วยแพะ 1 ราย (แม่ทะ) Cluster ร้านประดับยนต์ 1 ราย (ห้างฉัตร) Cluster ร้านก๋วยเตี๋ยว
หน้าตลาดบ้านต้นธงชัย 2 ราย (เมือง) Cluster ครอบครัวพนักงานเทศบาลตำบลบ่อแฮ้ว 1 ราย
(เมือง) เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงของผู้ป่วยเดิม 3 ราย (เมือง 2 แจ้ห่ม 1) และเป็นผู้ป่วยใหม่ 2 ราย
(เมือง) ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
กรณีผู้ป่วยโควิด- 19 สายพันธุ์โอมิครอนรายที่ 2 ของจังหวัดลำปางเป็นเพศหญิง อายุ
24 ปี ภูมิลำเนา ตำบลหัวเวียง อำเภอเมือง อาชีพ พนักงานธนาคารที่เมืองลอนดอน ประเทศ
อังกฤษ ไม่พบอาการป่วย มีประวัติการได้รับวัคซีน Pfizer จำนวน 3 เข็ม โดยเข็มแรกได้รับ
วันที่ 4/7/2564 เข็มสองได้รับวันที่ 28/8/2564
และเข็มสามได้รับวันที่ 19/12/2564
ซึ่งรายละเอียดประวัติการเดินทาง และผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ดังนี้ :
วันที่ 22 ธันวาคม 2564
ตรวจ RT-PCR Fit To Fly ร้านขายยาหน้าบ้าน ผล Not Detected
วันที่ 24 ธันวาคม 2564
09.10 น. ขึ้นเครื่องบินสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ S0305 เลขที่นั่ง 48K จาก
สนามบินอังกฤษ
วันที่ 25 ธันวาคม 2564
06.05 น. เปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ SQ706
เลขที่นั่ง 45K
08.40 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ รถโรงแรมมารับพร้อมตรวจ RT-PCR
17.23 น. ผลการตรวจ RT-PCR Not Detected โดยโรงพยาบาลพริ้นซ์
วันที่ 26 ธันวาคม 2564
06.30 น. เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ สายการบิน Bangkok airways, PG203 12B
09.50 น.
ถึงลำปาง คุณแม่มารับโดยรถยนต์ส่วนตัว กลับบ้าน
ช่วงบ่าย- ไปร้านตัดผ้าบริเวณวัดปงสนุก ร้านสูทบริเวณกองบังคับการตำรวจภูธร
จังหวัดลำปาง และร้านตัดผมใกล้สนามไดร์ฟกอล์ฟบ้านดง โดยใส่ Mask
ตลอดเวลา

วันที 27 ธันวาคม 2564
10.00 น. ติดต่อธนาคารกรุงไทย สาขาลำปาง ใส่ Mask ตลอดเวลา
16.00 – 17.00 น. โรงพยาบาลลำปาง (เยี่ยมพ่อ ที่ชั้น 5 ตึกสิทธิเกษม)
วันที่ 28 ธันวาคม 2564
11.00 น.
ไปร้านทองบริเวณโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
11.30 น.
ไปร้านแว่นตาบริเวณโรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม
12.30 น.
ไปศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา ลำปาง (ธนาคารออมสิน,
ร้านจำหน่ายสินค้าอเนกประสงค์, Robinson, ร้านจำหน่ายไอศกรีม)
16.00 น.
ร้านอาหารผ่านถนนฉัตรไชย
วันที่ 29 ธันวาคม 2564
ช่วงเช้า
ไปเชียงใหม่เพื่อส่งน้องสาวทำวีซ่าที่สถานกงสุล จังหวัดเชียงใหม่
ประเทศไทย (รอในรถยนต์ส่วนตัว)
17.00 น.
ร้านสะดวกซื้อบริเวณโรงเรียนเทศบาล 4
วันที่ 30 ธันวาคม 2564
10.00 น. ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลลำปาง
12.00 – 13.00 น. ไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง (ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ,
Robinson
ชั้น 2, ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารไทยพานิชย์)
13.00 น
ร้านก๋วยเตี๋ยวบริเวณโรงเรียนเทศบาล 4 โดยรับประทานอาหารเสร็จ
เดินทางกลับบ้าน อยู่บ้านตลอด
วันที่ 31 ธันวาคม 2564
14.20 น.
ทราบผลการตรวจสายพันธุ์จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่
แจ้งเป็นสายพันธุ์ B. 1.1.529 (omicron)
เข้ารับการรักษาที่ห้อง Negative Pressure โรงพยาบาลลำปาง
มาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR กลุ่มผู้สัมผัส
ผู้ป่วย ได้แก่ ครอบครัวผู้ป่วย จำนวน 4 คน นอกจากนี้ทีมสอบสวนโรคได้ค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม
ด้วยการตรวจเชิงรุกในชุมชน
จากการประเมินความเสี่ยงต่อสถานการณ์การพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
รายที่ 1 และรายที่ 2 ของจังหวัดลำปาง พบว่า ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศส่วนใหญ่ไม่ได้
มีการกักตัวเมื่อเดินทางมาจังหวัดลำปาง ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19
สายพันธุ์โอมิครอน จังหวัดลำปาง ขอความร่วมมือทุกท่านที่เดินทางมาจากต่างประเทศกักแยก
ตัวเอง(Home Quarantine) ที่บ้านของตนเองโดยไม่ออกไปที่ใด เป็นเวลา 14 วัน ตรวจหาเชื้อ
โควิด- 19 ด้วยชุดตรวจ ATK และหากมีอาการให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุด
ช่วงหลังหยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ ขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน ทุกองค์กรให้ Work From
Home เป็นระยะเวลา 7-14 วัน หรือบริหารจัดการสลับ/แบ่งคนมาทำงาน และตรวจหาเชื้อ
โควิด- 19 ด้วยชุดตรวจ ATK ในบุคลากรทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ร่วมแสดงความคิดเห็น