สถานการณ์การสู้รบในจังหวัดลอยก่อว์ รัฐคาเรนนี สหภาพเมียนมา ทหารพม่ายังคงมีการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด โจมตีกลุ่มกองกำลัง KNDF และ PDF อย่างหนัก ขณะที่ในตัวเมืองมีการปะทะกันระหว่างทหารพม่ากับฝ่ายต่อต้านอย่างรุนแรงเช่นกัน ส่งผลให้มีชาวเมืองลอยก่อว์อพยพออกจากตัวเมืองไปอาศัยอยู่ในรัฐฉานที่อยู่ติดกัน ทางด้านประชาชนชาวคาเรนนีและชนผ่าอื่นๆ ในเมียนมา เร่งส่งสิ่งของจำเป็นช่วยเหลือผู้ประสบภัยสงคราม ในเมืองลอยก่อว์ ด้านทางการไทยในแม่ฮ่องสอน ระบุ ผู้อพยพที่หนีภัยสงครามจากรัฐคาเรนนี บางส่วนได้เดินทางกลับ เหลืออีกจำนวนหนึ่งที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยตามแนวชายแดนไทย
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย – เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า บริเวณพื้นที่ในรัฐคาเรนนี ตรงข้าม อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ไม่ปรากฎการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังซนกลุ่มน้อยเชื้อสายคะยา KNDF / KNPP แต่อย่างใด ปัจจุบันยังคงมีผู้ลี้ภัยชาวคาเรนนี ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ช่องทางทะนาควาย บ้านในสอย ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 729 คน โดยมีผู้ลี้ภัยเดินทางเข้ามาเพิ่มเติมอีก จำนวน 15 คน สำหรับผู้ลี้ภัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ช่องทาง เนิน 585 น้ำเพียงดิน ผู้ลี้ภัยได้เดินทางไปยังบ้านห้วยโปงเลาในพม่าหมดแล้ว
โดยศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอความร่วมมือ ประชาชนในพื้นที่ งดการเดิน ทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 รวมถึงขอความร่วมมือ จากสื่อมวลชน และทุกภาคส่วนในการตรวจสอบข่าวสารข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำไปเผยแพรให้กับประชาชน เพราะข่าวสารที่ไม่เป็นความจริงนั้นจะสร้างความแตกตื่นและความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยประชาชนสามารถรับฟังข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงได้จากการแถลงข่าวประจำวันของศูนย์สั่งการชายแดน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
สำหรับการสู้รบในพื้นที่ เมืองลอยก่อว์ รัฐคาเรนนี เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 เวลา 06.45 – 19.20 น. กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNDF / KA / PDF ได้เข้าโจมตีทหารพม่า สังกัด กองพลทหารราบเบาที่ 66 ( พล.ร.เบา 66 ) ที่ถูกส่งเข้ามาในพื้นที่ เมืองลอยก่อว์ โดยพื้นที่การปะทะอยู่บริเวณ ป๊อกไมลอง ด้านทิศเหนือของเมืองลอยก่อว์ กองกำลังทั้งสองฝ่ายได้สู้รบกันอย่างหนักตลอดทั้งวัน โดยในช่วงค่ำวันเดียวกัน เวลาประมาณ 18.15 น. กองทัพอากาศของทหารพม่า ได้ใช้เครื่องบินขับไล่ แบบ YAK-130 จำนวน 3 ลำ บินโจมตีกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล จำนวน 9 เที่ยวบิน จากนั้นเวลา 18.30 น.จึงยุติการโจมตีทางอากาศ ผลการปะทะ ทหารพม่าเสียชีวิต 21 นายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยทางฝ่ายต่อต้าน กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNDF / KA / PDF เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 5 นาย และกองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNDF / KA / PDF ยึดอาวุธปืนเล็กกลประจำกายทหารพม่าได้ 3 กระบอก , ปืนกลเบา 1 กระบอก , ปืน ค.60 จำนวน 1 กระบอก และ เครื่องกระสุนปืน เวชภัณฑ์ทางทหาร อีกจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNDF / KA / PDF ระบุว่า ปัจจุบันมีราษฎรใน เมืองลอยก่อว์ จำนวนประมาณ 2,000 คน ได้อพยพหนีภัยสงครามไปอาศัยอยู่ในพื้นเมืองสี่แส่ง รัฐฉาน เขตพื้นที่ยึดครองของ กองกำลังติดอาวุธ PNLO ชนเผ่าปาโอ โดยได้รับการช่วยเหลือฝ่ายปาโอในการให้ที่พักพิงให้กับ ราษฎรชาวเมืองลอยก่อว์ ส่วนราษฎรที่เหลือในตัวเมืองอีกประมาณ 12,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านเรือนและมีการขุดหลุมหลบภัยไว้ในบ้านเรือน โดยทางประชาชนในเมืองลอยก่อว์ วิงวอนให้ทหารพม่ายุติการโจมตีทางอากาศ เนื่องจากกระต่อประชาชนและบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ร่วมแสดงความคิดเห็น