เจ้าของร้านขนม ยอมรับความผิดพลาด และขอโทษผู้เสียหาย กรณีพบพลาสเตอร์ปิดแผลในขนมเข่ง พร้อมขอโอกาสแก้ไข

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามข่าว กรณีมีผู้พบพลาสเตอร์ปิดแผลในขนมเข่ง และนำเอาเรื่องที่พบเจอไปโพสต์ในเฟสบุ๊ค เพื่อให้ผู้ขายปรับปรุงเรื่องความสะอาด จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ในโซเซียลกันอย่างกว้างขวาง

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านดอยฮาง ม.1 ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย เพื่อพูดคุยกับนางณัฐมน อายุ 43 ปี ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีขนมเข่งที่พบพลาสเตอร์ปิดแผลใช้แล้ว ตามที่มีสื่อต่างๆ นำไปเสนอข่าวนั้น ลูกสาวคนโตซื้อมาจากร้านค้าเจ้าประจำ ที่ตลาดสดเทศบาล 1 เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยซื้อมาทั้งหมด 5 แพ็คๆละ 8 บาท เมื่อมาถึงบ้านลูกสาวก็แบ่งให้น้า 2 แพ็ค และลูกสาวคนโตเอาแบ่งให้น้องสาวฝาแฝดคนละ 1 แพ็ค ซึ่งแพ็คที่เจอพลาสเตอร์ เป็นแพ็คที่ลูกสาวแฝดคนเล็กเป็นคนกิน พอกัดไปคำแรกก็เจออะไรเหนียวๆ ทีแรกนึกว่าขนมเข่งมีไส้ แต่พอคายออกมาคลี่ดูก็พบว่าเป็นพลาสเตอร์ปิดแผลที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว พอลูกสาวเห็นดังนั้นจึงอาเจียนออกมา ทุกวันนี้ยังมีอาการไม่อยากอาหารอยู่ ตนและลูกๆ คนอื่นต้องพยายามหาวิธีล่อหลอกให้ทานอาหารตลอด

“หลังจากพบเจอเรื่องดังกล่าว จึงตัดสินนำเอาไปโพสต์กลุ่มข่าวในเชียงราย โดยมีจุดประสงค์แค่เพื่อให้ทางผู้ขาย ได้ปรับปรุงเรื่องความสะอาดของลูก จ้างที่ทำขนม ไม่มีเจตนาจะไปประจานให้ร้านค้าเกิดความเสียหาย เพราะส่วนตัวก็เป็นลูกค้าของทางร้านมานานหลายปี แต่ก็มีสื่อต่างๆได้หยิบยกนำไปเสนอข่าวจนโด่งดัง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อให้นายอาร์ต (นามสมมุติ) เจ้าของร้านขนมตามที่เป็นข่าว ให้พูดคุยกับผู้เสียหายทางโทรศัพท์ โดยเจ้าของร้านขนมเผยกับว่า ทางร้านได้เห็นข่าวดังกล่าวแล้ว และยอมรับในความผิดพลาด เนื่องจากช่วงนี้มีออเดอร์ขนมจากที่ต่างๆเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทางร้านจึงเร่งการผลิต เกี่ยวกับความผิดพลาดดังกล่าว ทางร้านได้ทำการพูดคุยกับพนักงานแล้ว และได้กำชับในการรักษาความสะอาดในทุกๆ ขั้นตอน ตนอยากขอโทษผู้เสียหายที่ต้องพบเจอกับกรณีดังกล่าว ส่วนลูกจ้างที่ทำพลาสเตอร์ตกในขนม ทางร้านก็คงต้องจ้างงานต่อไป เพราะเป็นคนงานเก่าแก่ ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ถ้าเราไม่จ้างแล้วเขาจะไปทำงานที่ไหน สงสารคนงาน แต่จะเน้นย้ำเรื่องความสะอาดให้มากยิ่งขึ้น หวังว่าลูกค้าจะเข้าใจและให้โอกาสในการแก้ไข

ร่วมแสดงความคิดเห็น