เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 65 พล.ท.บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ผบ.ศป.บส.ชน.) พร้อมด้วย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมในการแถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหาและของกลางจากการตรวจยึดยาเสพติด เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านสันถนนเหนือ ม.1 ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 33 กระสอบ 6.6 ล้านเม็ด และรถยนต์ที่ใช้ลำเลียงยาเสพติดอีก 1 คัน ณ ลานหน้าศาลากลาง จ.เชียงราย
พล.ท.บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ผบ.ศป.บส.ชน.) เผยว่า ตามนโยบายในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก/ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก, พล.ท. อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบนโยบาย/ สั่งการให้หน่วยกำลังป้องกันชายแดน สกัดกั้นยาเสพติดให้ได้ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดนนั้น ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงและหน่วยขึ้นควบคุมทางยุทธการ ของศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ปฏิบัติตามมาตรการ สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด โดยต่อเนื่อง
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.บส.ชน.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาเสพติด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท.บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ผบ.ศป.บส.ชน.) ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงได้จัดกำลังร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง (ฉก.ม.3 กกล.ผาเมือง), ชุดตรวจสอบข่าวสารเชียงราย (ชตข.เชียงราย), ชุดตรวจสอบข่าวสารเชียงราย แผนกปฏิบัติการข่าวยาเสพติด ศูนย์บูรณาการข่าว ฝ่ายข่าวศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ชตข.เชียงราย ผขย.สปก.ศบข.ฝขว.ศปก.ทบ.), ชุดปฏิบัติการโครงการสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ชุดที่ 1 (ป.ป.ส.) และหน่วยข่าวกรองทางทหาร กองกำลังผาเมือง (ขกท.กกล.ผาเมือง) ทำการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณ บ.ทุ่งเกลี้ยง ม.6 ต.ศรีเมืองชุม ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ต่อมาเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 19 ม.ค. 65 พบรถยนต์ต้องสงสัย อีซูซุ มิวเอ็กซ์ ทะเบียน ขค-9754 เชียงราย ขับผ่านมาทางจุดตรวจ/จุดสกัดดังกล่าว จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าว ได้ใช้ความเร็วขับฝ่าด่านตรวจ จึงได้ทำการไล่ติดตาม เป็นระยะทางประมาณ 6 กม. จนสามารถสกัดจับได้ บริเวณพิกัด NC987546 บ.สันถนนเหนือ ม.1 ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สาย มีผู้ขับขี่คือ นายวชิระพงศ์ พรหมวงษา อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่ จ.สิงห์บุรี โดยภายในรถดังกล่าวบรรทุกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 33 กระสอบๆ ละ 200,000 เม็ด รวมยาบ้า จำนวน 6,600,000 เม็ด (หีบห่อประทับตรา 999 และ Y1)
ผบ.ศป.บส.ชน. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งในด้านการข่าว และการเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน จึงทำให้มีการจับกุมยาเสพติดได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะ จ.เชียงรายมีพื้นที่รอยต่อติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ ซึ่งสาเหตุที่มีการลักลอบขนยาเสพติด และมีการจับกุมได้เป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ชนกลุ่มน้อยต่างๆเร่งผลิตยาเสพติดออกมาจำหน่าย เพื่อเป็นทุนในการจัดซืัออาวุธสงคราม ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่ของฝั่งไทย ได้มีการเข้มงวดมากขึ้น มีการเพิ่มกำลังเฝ้าระวังตามจุดสกัด และบูรณาการทางด้านการข่าว จนมีผลการจับกุมเป็นที่น่าพอใจ
“จากการจับกุมที่ผ่านๆมา จะพบว่าพ่อค้ายาเสพติดจะยังเป็นกลุ่มเดิมๆ แต่จะเปลี่ยนผู้ลำเลียง จากเดิมที่ใช้กลุ่มชาวเขาตามแนวชายแดน จะเปลี่ยนพฤติการณ์มาใช้คนจากพื้นที่ภาคกลาง มาเป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศมากขึ้น” พล.ท.บุญยืน กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.เชียงราย และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาค 5 กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในครั้งนี้ ถือเป็นรายสำคัญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการสืบสวนขยายผลและดำเนินคดีถึงที่สุด รวมถึงการติดตามยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องในขบวนการทั้งหมดด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น