(มีคลิป) นทท.แห่เดินทางสัมผัส สุดยอดอันซีน “ดอยหลวงเชียงดาว” ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัด อุณหภูมิยอดดอย 2 องศาฯ

นักท่องเที่ยวแห่เดินทางสัมผัส สุดยอดอันซีน “ดอยหลวงเชียงดาว” สูงเสียดฟ้า ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัด อุณหภูมิยอดดอย 2 องศาฯ พบกวางผาอาบแดด อวดสายตา สมชื่อพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลก

วันที่ 25 ม.ค.65 รายงานข่าวแจ้งว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นของ จ.เชียงใหม่ในขณะนี้ ที่ส่งผลทำให้การท่องเที่ยวของพื้นที่เริ่มคึกคัก โดยเฉพาะตามเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และยอดดอยขึ้นชื่อต่างๆ ในจังหวัดที่ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต่างเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาว และความสวยงามของธรรมชาติกันอย่างเนื่องแน่น ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากในขณะนี้ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ปกติ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ขณะที่ทางด้าน พื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.เชียงใหม่ ที่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก แห่พากันลงทะเบียนจองสิทธิ์เข้าศึกษาธรรมชาติ “ดอยหลวงเชียงดาว” ที่ทางเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว ได้เปิดให้ลงทะเบียนจองลวงหน้า มาตั้งแต่วันที่ 10-19 พ.ย.64 ที่ผ่านมา และเปิดให้สามารถเดินทางเข้าศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ตั้งแต่ 2 ธ.ค.64 จนถึง 15 ก.พ.65 โดยพบว่าในแต่ละวันมีประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่ได้ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้แล้วนั้น ต่างเดินทางเข้ามากันเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมตัวในการเดินทางขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติ และสภาพอากาศหนาวเย็นบนยอดดอย

โดนในการเดินทางเข้าพื้นที่นั้น ทางด้านเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ได้มีมาตรการเข้มในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรการในการรักษาความสะอาดในพื้นที่ หลังจากที่ทางยูเนสโกประกาศ “ดอยหลวงเชียงดาว” เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งที่ 5 ของไทย โดยนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ได้นั้น จะต้องผ่านการอบรมและให้ความรู้ของเจ้าหน้าที่ก่อน 1 วัน อีกทั้งยังต้องได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 (ATK) ก่อนการอบรม เพื่อให้เป็นไปตามาตรการในการเข้าพื้นที่ และเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีมาตรการในการรักษาความสะอาดที่นักท่องเที่ยว จะต้องนำขยะที่ใช้บนยอดดอยกลับลงมาตามจำนวนที่นำขึ้นไป หรือที่เรียกว่าโครงการขยะคืนถิ่นอีกด้วย

สำหรับบรรยากาศการเดินทางไปยังยอดดอยหลวงเชียงดาวนั้น พบว่านักท่องเที่ยวจำนวนวันละประมาณ 100 คน ต้องนั่งรถกระบะหรือรถโฟวิล ที่ได้ลงชื่อจองไว้กับทางเจ้าหน้าที่ของเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวไว้ล่วงหน้า เพื่อเดินทางจากที่ทำการเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก (เด่นหญ้าขัด) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และต้องเดินทางด้วยเท้าไปยังยอดดอยอีกประมาณ 8.5 กิโลเมตร ก่อนจะขึ้นไปยังจุดชมวิวยอดดอยหลวงเชียงดาวอีกประมาณครึ่งกิโลเมตร ที่เป็นทางลาดชันและผาหิน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิ 2-4 องศาเซลเซียส เพื่อชมพระอาทิตย์ตกดิน และพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันถัดไป ก่อนที่จะเดินทางกลับลงมายังเส้นทางเดิมที่ขึ้นไปอีก 8.5 กิโลเมตร ซึ่งบรรยากาศนั้นพบว่าในช่วงเช้ายังมีปรากฎการณ์ “แม่คะนิ้ง” ปรากฎให้นักท่องเที่ยวได้พบเห็น และนอกจากนี้ ยังพบว่าบริเวณยอดดอยยังมี “กวางผา” ปรากฎตัวออกมาอวดโฉม ยืนอาบแดดให้นักท่องเที่ยว ที่เดินทางขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นได้พบเห็นอีกด้วย

จากการสอบถามทางด้าน นายชินวัฒน์ วิถีภัณท์ หรือท็อป อายุ 25 ปี ชาว จ.ราชบุรี ที่เดินทางมาท่องเที่ยว บอกว่า ตนรู้จักดอยหลวงเชียงดาว สมัยที่เดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ ครั้งแรกเมื่อหลาย 10 ปีก่อน และได้มาเห็นดอยหลวงเชียงดาว หลังจากนั้นจึงศึกษาข้อมูล แล้วพบว่าได้มีการเปิดให้จองสิทธิ์เพื่อเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ตนจึงลงทะเบียนจองสิทธิ์มาด้วยตัวเองเพียงคนเดียว โดยหลังจากที่ได้เดินทางขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศบนยอดดอยแล้วนั้น ตนรู้สึกประทับใจมาก และรู้สึกว่ายอดดอยหลวงเชียงดาวสวยงามมาก เพราะตนเองก็เดินทางท่องเที่ยวธรรมชาติมาหลายที่ แต่รู้สึกว่าที่ดอยหลวงเชียงดาวนั้น มีวิวทิวทัศน์ที่อลังการกว่าทุกที่ที่เคยไปมา อีกทั้งยังมีสภาพอากาศหนาวเย็นกว่าที่อื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของการเดินทางนั้นตนก็คิดว่าไม่ลำบาก และสนุกมากกว่า ซึ่งหากมีโอกาสก็อยากที่จะมาเที่ยวอีก

ส่วนเรื่องของมาตรการ และกฎข้อบังคับที่ทางเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวกำหนดไว้ในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการป้องกันเชื้อโควิด-19 และเรื่องของการรักษาความสะอาดในพื้นที่นั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี และไม่ลำบากแต่อย่างใด และเป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวควรปฏิบัติอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นสิ่งที่ต้องแลกอยู่แล้ว หากจะเดินทางไปด้านบนยอดดอยที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนักเดินทางศึกษาธรรมชาติอยู่แล้ว

สำหรับ “ดอยหลวงเชียงดาว” ได้ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลก ณ เมืองอาบูจา ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย เมื่อวันที่ 15 ก.ย.64 ที่ผ่านมา โดยยูเนสโก ได้รับรองพื้นที่สงวนชีวมณฑลดอยเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งที่ 5 ของประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายพื้นที่สงวนชีวมณฑลโลก พื้นที่สงวนชีวมณฑลดอยเชียง ดาว เป็นพื้นที่ที่มีความมหัศจรรย์ ไม่เพียงแต่ในด้านของสังคมพืชกึ่งอัลไพน์ และสัตว์ป่าเฉพาะถิ่นและหายาก แต่ยังรวมถึงความผูกพันทางจิตวิญญาณของผู้คนท้องถิ่นที่มีต่อดอยเชียงดาว ปราชญ์ ศิลปิน ผู้นำและชุมชนที่เข้มแข็ง เต็มเปี่ยมด้วยจิตสำนึกรักบ้านเกิด และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่จะส่งต่อให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ด้วยศักยภาพของพื้นที่สงวนชีวมณฑลดอยเชียงดาวในการเป็นต้นแบบของ การบูรณาการความรู้ ทั้งด้านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (BCG Economy) การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และแนวคิด เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ ในระดับประเทศและสากล ที่จะเป็นประโยชน์ต่อชาวเชียงดาวและ จ.เชียงใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น