มารู้จักกับคุณ Gracelynly Jiradechworachot (เกรซลิลลี่ จิระเดชวรโชติ) นักธุรกิจสาวสวยชื่อเก๋มากความสามารถ ที่เพิ่งคว้ารางวัล CEO THAILAND AWARDS 2022 ในฐานะ CMO สถาบัน Gimme Eng และธุรกิจในเครือ

1️⃣ทำไมถึงชื่อเกรซลิลลี่? 

?ตอบ : เพราะว่าคุณแม่เรียกว่า “เกรซ” และ คุณพ่อเรียกว่า “ลิลลี่” ค่ะ แต่เรียกอะไรก็ได้ค่ะใน 3 พยางค์นี้ค่ะ

 

 

2️⃣ได้ข่าวว่าตั้งแต่เด็กจนโตเป็นทั้งเด็กที่มีผลการเรียนดีมากๆและเป็นเด็กกิจกรรมอีกด้วย ที่สำคัญได้ทุนเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยด้วยใช่ไหม? เป็นทุนอะไร? 

?ตอบ : ตอนเด็กๆตั้งใจเรียนค่ะ(หัวเราะ) แล้วพอช่วงเข้ามหาวิทยาลัยเราได้รับทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นทุนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา มหาราชา ช่วงนั้นพอดีค่ะ

 

3️⃣ อะไรที่ทำให้คุณเกรซกลายมาเป็นนักธุรกิจสาวที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย?

?ตอบ : สำหรับตัวเกรซๆว่าตัวเองยังไม่ได้ประสบความสำเร็จนะคะ(หัวเราะ) หนทางอีกยาวไกลค่า นี่อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นด้วยซ้ำค่า

       แต่สำหรับความคิดเกรซ อาจจะเป็นเพราะเรามีโอกาสได้เริ่มทำอะไรก่อนคนที่อายุรุ่นเดียวกันค่ะ 

       คือช่วงตอนเรียนอยู่ปี2 ได้มีโอกาสเป็นพิธีกรรายการของช่องทรู, ถ่ายโฆษณาและทำงานด้านวงการบันเทิงมาบ้างค่ะ มันเลยทำให้เรามีความคิดหลายๆอย่างออกจากกรอบเดิมๆ ก็คือนอกจากการตั้งใจเรียนแล้ว ประสบการณ์ชีวิตก็สำคัญพอๆกัน

        เพราะช่วงที่ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ทำให้เวลาเข้าเรียนไม่ครบตามกำหนด หลายๆวิชาจึงหมดสิทธิ์สอบค่ะเพราะขาดบ่อยมากช่วงนั้นเพราะต้องออกกอง ตอนนั้นจึงตัดสินใจดรอปเรียนไว้ก่อนเพื่อทำงานค่ะ เพราะคิดว่าโอกาสมันไม่ได้มากันง่ายๆสำหรับทุกคนค่ะ

         หลังจากที่เราดรอปเรียน ทำงานเต็มที่ประมาณ 1 ปี แล้วกลับมาเรียน มันทำให้มุมมองการเรียนเปลี่ยนไปค่ะ ปกติเราจะเครียดมากๆกับเกรดที่ออกมา กลัวได้เกรดไม่ดี แบบพอเกรดต่ำกว่าเทอมที่แล้วก็จะเครียดมากๆ 

           แต่พอเรามีประสบการณ์การๆทำงาน มาบ้างแล้ว ทำให้เรากลับมีความคิดว่า ชีวิตมันมีอะไรมากกว่าเกรดที่จบมานะคะ จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เรามีความคิดนอกกรอบและการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปค่ะ 

        แล้วพอช่วงเราใกล้เรียนจบ คุณพ่อป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งคุณพ่อเองเป็นเสาหลักของครอบครัวคนเดียว พอคุณพ่อล้มป่วย เราที่เป็นพี่สาวคนโตจะต้องแบกรับหน้าที่ทุกอย่างในบ้านแทนคุณพ่อทั้งค่าใช้จ่ายที่บ้านจนกระทั่งค่าเทอมน้องอีก 2 คน 

        ถามว่าเครียดไหม? ช่วงนั้นเครียดมากๆค่ะ ถึงเราจะเคยทำงานมาบ้าง แต่ตอนนั้นคือสถานการณ์มันบีบให้เราต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวทั้งๆที่เรายังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ

      เราก็ดิ้นรนทุกอย่างเลยค่ะ กลับไปทำงานในวงการบ้าง ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา และโชคดีคือเราได้ไปแข่งแล้วได้ตำแหน่ง Miss Kitty 2017 ซึ่งได้รับเงินรางวัลจำนวน 1 ล้านบาทจึงนำเงินตรงนั้นมาใช้เพื่อคุณพ่อและครอบครัวค่ะ

 

4️⃣ อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณเกรซหันมาเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง?

?ตอบ : หลังจากที่คุณพ่อคีโมและอาการดีขึ้นจากโรคมะเร็ง เราก็เหลือเงินเก็บอยู่ก้อนนึง และเรามีความคิดว่า อยากทำอะไรสักอย่างที่เป็นของตัวเราเอง

 

      เราก็เริ่มทำแบรนด์ skincare ออกมาค่ะ ตัวแรกเป็นสบู่มาส์กข้าวจากประเทศญี่ปุ่น บินไปเลือกวัตถุดิบที่ญี่ปุ่นด้วยตัวเองเลยค่ะ ผลตอบรับดีมากๆ เพราะเราเป็นคนดูแลและให้คำปรึกษาลูกค้าด้วยตนเอง ลูกค้าประจำเราจะเยอะมากๆค่ะ

       ต่อมาเราได้มีโอกาสนำแบรนด์ของเราไปแสดงในงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามที่ Guangzhou ประเทศจีน เราจึงได้ connection และมีโอกาสได้จดใบคุ้มครองแบรนด์และบริษัทที่จีนที่ถูกต้องตามกฎหมายค่ะ

      หลังจากนั้นพอกลับมาไทย ได้มีโอกาสนำแบรนด์ไปจำหน่ายตามคลินิกและโรงพยาบาล และนำสินค้าไปลงตามแหล่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น ห้วยขวางและภูเก็ตเป็นต้นค่ะ ที่สำคัญมีหลายๆคนที่เรารู้จักเป็น influencer ช่วยกันโปรโมทแบรนด์เราอีกทางด้วยค่ะ

       และต่อมาได้มีโอกาสนำแบรนด์ไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า, กัมพูชา, เวียดนาม ฯลฯ จึงทำให้เรามี connection กับทางอาเซียนเพิ่มขึ้นค่ะ 

       สำหรับลูกค้าในแถบอาเซียนเค้าค่อนข้างชอบผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยอยู่แล้ว จึงมีหลายๆคนติดต่อเข้ามาให้เป็นตัวกลางในการประสานงานที่จะทำผลิตภัณฑ์ที่มาจากฐานผลิตที่ไทย รวมถึงแบบ one stop service และดูแลการตลาดให้ค่ะ 

 

5️⃣ อะไรคือจุดขายที่ทำให้ลูกค้าในต่างประเทศสนใจมาให้ทางคุณเกรซดูแลส่วนตรงนี้ให้

 

? ตอบ : นอกจากการทำการตลาด และการใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิตแล้ว เกรซ มองว่าความลับของลูกค้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆค่ะ หลายๆเจ้าที่ทำการตลาดมักจะนำผลงานของแบรนด์ต่างๆที่ตัวเองทำให้ มาเป็นจุดขายเพื่อต่อยอด แต่สำหรับตัวเกรซเอง เกรซมองมุมมองของลูกค้า เวลาเค้าขายดี แบรนด์เค้าดัง เค้าคงไม่อยากให้คู่แข่งหรือใครรู้หรอกใช่ไหมคะว่ากลยุทธ์ที่เค้าทำคืออะไร หรือเค้าจ้างใครในการทำการตลาดให้ 

       ตรงนี้ก็จะเป็น word of mouth และเกิด Brand loyalty ขึ้นมาเองค่ะ เพราะเกรซเองรับดูแลลูกค้าจำกัดเช่นกันค่ะ เพราะมีอีกหลายงานที่ทำอยู่ด้วยค่ะ

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

 

6️⃣ นอกจากตรงนี้แล้วมีทำอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติมบ้าง?

? ตอบ : ก็จะมีเป็นเล่นหุ้น, คริปโต และทำผลิตภัณฑ์ส่งขายในร้านขายยาค่ะ แต่หลักๆตอนนี้ที่ทำนอกจากดูแลแบรนด์ก็คือ ธุรกิจการศึกษา Gimme Eng ค่ะ

 

7️⃣ ที่มาที่ไปของการมาทำธุรกิจการศึกษา Gimme Eng คืออะไร?

? ตอบ : คือเรารู้จักหลายๆคนที่เค้าจบจาก Top U ทั้งในไทยและต่างประเทศ แล้วหนึ่งในนั้นก็มีพี่คนนึงที่เค้าจบจากตรงนั้นโดยตรงและมีประสบการณ์สอนมาตั้งแต่ปี 2010 

      และพอพี่แกจบ ป.โทจากอังกฤษมา พี่แกก็อยากนำความรู้และประสบการณ์ที่แกมี รวมถึง Thesis ที่แกทำเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาเด็ก South East Asia กลับมาใช้ประโยชน์ตาม Thesis ที่เคยทำไว้ค่ะ

      พอกลับไทย พี่แกก็อยากนำความรู้และประสบการณ์ตรงนี้มาต่อยอดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อน้องๆในรุ่นต่อๆไปค่ะ

     พี่แกก็มาปรึกษาเรา แล้วก็เกิดเป็นสถาบัน Gimme Eng ในปัจจุบันนี้ค่ะ

 

8️⃣ การทำการตลาดให้แบรนด์ความงามกับการศึกษาต่างกันมากไหม? ต้องปรับตัวอย่างไร?

? ตอบ : ต่างกันค่ะ ต้องปรับตัวเยอะอยู่ เพราะด้วยอายุของน้องๆเอง เวลาจะยิงโฆษณาหรือทำการตลาดด้านอื่นๆ ข้อจำกัดมันจะเยอะกว่า ช่วงแรกๆเราจะมีการจัดประชุมกันบ่อยมาก เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาระบบหลังบ้าน เพราะต่างคนต่างถนัดไม่เหมือนกันค่ะ ต้องปรับจูนกันเยอะมากๆค่ะ กว่าจะทำให้พอใจในทุกๆฝ่ายมันยากมากๆเลยค่ะ

 

9️⃣ การเปลี่ยนระบบของสถาบัน Gimme Eng มาเป็น Online 100% ให้เข้ากับสถานการณ์โควิด มีผลกระทบอย่างไรบ้าง

? ตอบ : ตอนแรกที่เราเริ่มทำ เรามีคลาสสดสอนตรงพญาไทด้วยค่ะ แต่ส่วนมากจะเน้นเรียนเป็นออนไลน์มากกว่า เพราะมีน้องๆคนไทยที่อยู่ต่างประเทศให้เราดูแลเยอะมากๆ หรือบางคนก็เป็นชาวต่างชาติเลยค่ะให้เราวางแผนให้เพื่อเข้า Top U และมีการจัด School Tour เพื่อเป็นวิทยากรให้ความรู้น้องๆตามโรงเรียนด้วยค่ะ

      ซึ่งคำว่าเรียนออนไลน์ พอฟังปุ๊ปน้องๆก็จะเกิดความคิดแง่ลบกับคำๆนี้ขึ้นมาทันที เพราะน้องๆต้องนั่งเรียนออนไลน์ของที่โรงเรียนและได้รับผลกระทบมาเป็นปีๆแล้ว 

     แต่การเรียนออนไลน์ที่โรงเรียนที่เรียนพร้อมกันทั้งห้อง กับการเรียนออนไลน์แบบเดี่ยวเนื้อหากระชับตรงจุดไว้ใช้สอบ ไม่เข้าใจตรงไหนเรียนซ้ำได้ไม่จำกัดครั้ง และสามารถถามครูผู้สอนเพื่อแก้ปัญหาได้โดยตรง เกรซว่ามันต่างกันนะคะ

      การที่เราจะได้คะแนนดีต้องขึ้นอยู่กับครูผู้สอนและตัวนักเรียนเองด้วยค่ะ อย่างตอนนี้เราเพิ่งทำหลักสูตรใหม่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เป็นหลักสูตรที่ดีขึ้น เข้มข้นขึ้น และปิดช่องโหว่ทุกปัญหาที่น้องๆแนะนำมาด้วยค่ะ เพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้เรียนและการันตีผลคะแนนสำหรับน้องๆทุกคนที่ลงเรียนกับเราค่ะ

 

? ปัญหาที่เคยเจอจากการทำธุรกิจ Gimme Eng และนำแนวทางการแก้ปัญหามาปรับใช้กับธุรกิจนี้อย่างไร

? ตอบ : เราเริ่มทำธุรกิจนี้ประมาณปี 2019 (ไม่รวมประสบการณ์การสอนของพี่ที่จบจาก Top U ตั้งแต่ปี 2010) ช่วงแรกๆที่มีน้องๆมาเรียนกับเรา แล้วน้องๆสามารถสอบได้คะแนนเกินเป้าหมายภายใน 7 วันตั้งแต่ครั้งแรก (เร็วสุดเรียนแค่ 1 วันแล้วสอบผ่าน) หรือน้องๆที่สามารถเข้า Top U ในต่างประเทศ เช่น Cornell หรือในไทยที่ จุฬา, ธรรมศาสตร์, มหิดลและอีกหลายๆที่ได้

      ทำให้มีน้องๆ มาอยู่ภายใต้การดูแลของเราเยอะมาก มากเกินกว่าที่กำลังผู้สอนจะสอนได้ จึงทำให้เกิดปัญหาที่ดูแลน้องๆบางคนไม่ทั่วถึง, รอตารางเรียนนาน หรือจำเป็นต้องจับน้องๆวิชาเดียวกันมาเรียนเป็นกลุ่มเพราะเวลาเรียนที่จำกัด ที่สำคัญไม่มีเวลามาพัฒนาตัวเองและระบบหลังบ้านเลย แบบเวลาทำงานของทุกฝ่ายในสถาบันตั้งแต่หกโมงเช้าถึงตีสองทุกวันเลยค่ะช่วงนั้น

       ซึ่งปัญหาตรงนี้ เราแก้ไขโดย รับนักเรียนจำกัดจำนวนในแต่ละรอบ เพื่อให้การดูแลนั้นทั่วถึงทุกคน และเราไม่ได้รับดูแลน้องๆทุกคนได้เหมือนแต่ก่อนค่ะ เราจะมีการโทรสัมภาษณ์น้องๆแต่ละคน น้องๆคนไหนที่มีความกระตือรือร้นและจุดมุ่งหมายชัดเจนพร้อมที่จะลุยไปพร้อมๆกับเรา ทางเราก็จะรับดูแลเป็นเคสต่อเคสไปค่ะ

      เพราะการเรียนให้ได้คะแนนดี พูดแบบไม่โลกสวยก็คือต้องขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายด้วยค่ะ ต่อให้สอนดี เทคนิคดีแค่ไหน ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม แต่อีกฝ่าย ไม่ฝึก ไม่ตั้งใจ ส่งงานไม่ครบ ไม่ทำตามหลักสูตร งงแล้วไม่ถาม ผลลัพธ์ที่ออกมา ถ้าไม่ได้มีพื้นฐานที่แข็งมากๆจริงๆ ก็สู้น้องๆที่ขยันตั้งใจ ส่งงานครบ ทำตามหลักสูตรไม่ได้หรอกค่ะ เหมือนน้องๆที่เค้าขยันตั้งใจและได้ตามเป้าหมายกัน

        เพราะถ้าลงหลักสูตรกับทางเราๆแถมคลาสสดแก้ปัญหาให้ไม่จำกัดครั้ง แถมการันตีผลคะแนนสอบด้วย คะแนนไม่ถึงตามเกณฑ์ ให้เรียนซ้ำฟรีเลยโดยไม่มีเงื่อนไข

       และเรามีการพัฒนาหลักสูตรไพรเวทวีดีโอ (เลือกวันเวลาเรียนเองได้ เรียนทวนซ้ำได้ไม่อั้น) เพื่อปูพื้นฐานก่อนเริ่มเรียนคลาสสดเดี่ยว และในแต่ละคลาสจะมีการวางหลักสูตรเพื่อฝึกในแต่ละบทพร้อมเฉลยอย่างละเอียด และที่สำคัญถ้าน้องๆคนไหนไม่เข้าใจสิ่งที่เรียนวีดีโอไป สามารถนัดเวลาเพื่อแก้ปัญหาแบบคลาสสดเดี่ยวผ่าน Zoom share screen ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งอีกด้วยค่ะ 

       ดังนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเราได้พยายามพัฒนาตัวเอง และอุดช่องโหว่ให้มากที่สุดค่ะ ซึ่งหลักสูตรใหม่ ปี 2022 ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน คุ้มค่า คุ้มราคามากๆด้วยค่ะ(หัวเราะ)

 

1️⃣1️⃣ อะไรคือจุดเด่นของทางสถาบัน Gimme Eng และคิดว่าอะไรที่ทำให้สถาบัน Gimme Emg ได้รับรางวัล CEO THAILAND AWARDS

? ตอบ : นอกจากการที่ทำให้น้องๆจำนวนมากได้คะแนนเกินกว่ามาตรฐานที่คณะและมหาวิทยาลัยได้ตั้งไว้ กับพี่ๆบุคลากรมีประสบการณ์ตรงที่จบจาก Top U ทั้งไทยและต่างประเทศแล้ว 

         น่าจะเป็นหลักสูตรการันตีผลในแต่ละวิชาค่ะ เช่น IELTS การันตี Overall 7.0 ขึ้นไป, SAT การันตี 1,200 ขึ้นไป, GED การันตีวิชาละ 165ขึ้นไป, TOEIC การันตีที่ 800 ขึ้นไป เป็นต้นค่ะ และมีอีกหลายๆวิชาที่การันตีคะแนนเช่น TOEFL, CU-TEP, CU-AAT, TU-GET, GSAT และวิชาอื่นๆอีกมากมายค่ะ

         น้องๆคนไหนลงเรียนกับเราแล้วคะแนนไม่ถึงตามที่แจ้งไว้ สามารถเรียนซ้ำได้ฟรีโดยไม่มีเงื่อนไขค่ะ 

       มากไปกว่านั้นหลักสูตรของทาง Gimme Eng เอง เป็นการสอนเทคนิคเพื่อหาคำตอบ เพื่ออัพคะแนนในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นใครที่พื้นฐานอ่อนหรือไม่มีพื้นฐานเลยก็สามารถเรียนได้เลยโดยไม่ต้องปรับพื้นฐาน หรือบางคนที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษดีอยู่แล้ว แต่ชอบมีปัญหาทำข้อสอบไม่ทัน เทคนิคนี้ก็สามารถช่วยหาคำตอบได้ไวขึ้นค่ะ

        ทางเราไม่ใช่แค่โรงเรียนกวดวิชาที่สอนๆไปแต่ละวิชา แต่เราเป็นนักวางแผนกลยุทธ์ทางการศึกษา หมายถึง สมมติน้องๆอยากเข้า BBA จุฬา เราก็จะดูแลให้ทั้งระบบ จนกว่าจะสอบติด เช่น IELTS หรือ TOEFL หรือ CU-TEP, SAT หรือ CU-AAT และ Interview ค่ะ เราจะดูแลทั้งระบบและวิเคราะห์คะแนนว่าปีนี้ควรได้เท่าไหร่ ควรเน้นที่ตรงไหนเพื่อให้เข้าได้ ส่วน Interview เราจะสอนให้มีโครงสร้างการพูดอย่างไรให้ตรงใจกรรมการและใช้ตอบได้ทุกคำถาม อิงคำถามจากนักเรียนรุ่นก่อนๆที่สามารถเข้าคณะต่างๆได้ค่ะ

       และที่สำคัญเราให้ความสำคัญกับสิทธิความเป็นส่วนตัวของน้องๆมากๆค่ะ มีน้องๆหลายคนมากที่ลงเรียนกับเราแล้วได้คะแนนดีมากๆ ตามเป้าที่เค้าวางไว้ หลายๆคนติดที่ดีๆ มหาวิทยาลัยดีๆ 

      แต่เชื่อไหมคะว่าน้องๆหลายๆคนไม่อยากให้เอาหน้าน้องขึ้นเพื่อโชว์ผลงาน เราก็ไม่บังคับน้องๆค่ะ มีน้องหลายๆคนมาพูดกับทางเราว่า รู้สึกอึดอัดมากๆที่เรียนกับสถาบันอื่นมาก่อนหน้านี้ แล้วเค้าเอารูปหนูไปลง ถึงมาขอแล้ว หนูก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง หนูลำบากใจ พี่ไม่เอารูปหนูขึ้นได้ไหม? 

       เราจึงให้ความสำคัญตรงนี้ค่ะ เพราะในทางกลับกัน ถ้าเป็นเรา ถ้าเราเสียเงินมาเรียน เราก็อยากได้ความเป็นส่วนตัวเหมือนกันค่ะ

       เชื่อไหมคะว่าอย่างการที่เรามีชื่อเข้าชิงเข้ารับรางวัลนี้ ทางพี่ๆทีมงานได้ทำการขออนุญาตน้องๆทุกคนว่าขออนุญาตนำผลคะแนนที่น้องๆได้จากการเรียนที่ Gimme Eng ส่งเพื่อรับเลือกให้ได้รับรางวัลนี้ได้ไหม แต่ไม่ได้โชว์หน้าและชื่อน้องๆแน่นอน เพื่อนำผลงานส่งให้ทางกองพิจารณาเพื่อเข้าชิงการรับรางวัลในครั้งนี้ น้องๆเค้าก็ยินดีกันค่ะเพราะไม่ได้เอาข้อมูลส่วนตัวน้องๆแจงสู่สาธารณะค่ะ

       และที่สำคัญพี่ๆต้องขอขอบคุณน้องๆที่น่ารักทุกๆคน ที่หลังจากผลสอบออกแล้ว มาแจ้งผลคะแนนกับพวกพี่ และให้พวกพี่นำรูปและผลคะแนนไปใช้อย่างเปิดเผยค่ะ เพราะโดยปกติเราจะไม่ตามจิกนักเรียนเพื่อเอาผลงานค่ะ ยกเว้นจะถามนักเรียนว่าเรียนเข้าใจไหม? ไม่เข้าใจตรงไหนนัดคลาสสดแก้ปัญหาได้เลยน้า(หัวเราะ)

 

1️⃣2️⃣ อะไรที่ทำให้สถาบันเราโดดเด่นกว่าสถาบันคู่แข่ง

? ตอบ : เกรซมองว่าแต่ละที่ก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันค่ะ อยู่ที่ว่าการเรียนแบบไหนจะเข้ากับน้องๆแต่ละคนมากสุดต่างหากค่ะ 

     แต่ของทางพี่มีการันตีผลนะคะน้องๆ คะแนนไม่ถึงเรียนซ้ำฟรีไปเลย แถมฟรีคลาสสดเดี่ยวแก้ปัญหาไม่จำกัดครั้งให้ด้วย อยากให้ตรวจ Writing ก็ไม่จำกัดครั้งค่ะ Speaking นี่นัดฝึกไม่จำกัดครั้งจนกว่าจะพูดได้เลยค่ะ คือคุ้มมากๆแต่ฝั่งน้องๆเองต้องตั้งใจด้วยนะคะ

       ตั้งใจแค่ไหนดันเต็มที่ถึงไหนถึงกันเลยค่ะ สอนเต็มคาบแบบเดี่ยวตัวต่อตัว ส่วนการฝึกจะแยกไว้นอกคาบส่งทีหลัง ไม่เข้าใจตรงไหน สามารถถามผู้สอนได้โดยตรง และนัดเวลาแก้ปัญหาอธิบายเพิ่มเติมผ่าน Zoom share screen ได้ไม่จำกัดครั้งเลยค่ะ ทางเราไม่มีเวลาเปิดปิดเหมือนสถาบันทั่วไป ถ้ามีอะไรสงสัย ถ้าผู้สอนยังไม่นอน ถามได้ตลอดเลยค่ะ ซึ่งปกติพวกเราจะนอนดึกมากๆกันอยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ)

 

1️⃣3️⃣ ทำไมถึงกล้าแถมและดูแลน้องๆขนาดนี้ คอร์สนึงแพงไหม?

? ตอบ : คอร์สนึงไม่แพงเลยค่า ราคาเริ่มต้นหลักพันเองค่ะจะเป็นโควต้าพิเศษ จำกัดจำนวนนักเรียนต่อครั้งนะคะ ราคานี้รวมทุกอย่างแล้วค่ะ หนังสือ เอกสารทุกอย่างรวมแล้วไม่มีบวกเพิ่มค่ะ ซึ่งพอออกโปรมาปุ๊ป โควต้าจะเต็มไวมากค่ะ ซึ่งถ้าน้องๆคนไหนพลาดโควต้าไป ถ้าอยากได้ราคาพิเศษแบบนี้ ก็ต้องรอให้ทีมเค้าจัดโปรอื่นๆออกมาค่ะ ซึ่งโปรแต่ละรอบจะไม่เหมือนกันค่ะ

1️⃣4️⃣ อยากจะฝากอะไรกับคนที่อ่านบทสัมภาษณ์นี้บ้าง?

? ตอบ : ถ้าน้องๆหรือผู้ปกครองที่สนใจหรือกำลังมองหาที่เรียนอยู่นะคะ พี่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเพราะถ้าพูดแต่ข้อดีก็มีแต่ขายของ(หัวเราะ)

         พี่ว่าไม่มีที่ไหนคือที่ๆสอนดีที่สุดหรอก แต่ที่ๆสอนดีที่สุดคือที่ๆเราเรียนด้วยแล้ว เข้ากับเรามากที่สุด ที่ตัวน้องๆสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้เองในวันสอบต่างหากค่ะ

       ของแบบนี้ต้องขึ้นอยู่กับฝั่งผู้เรียนเองว่าหลังจากพิจารณาหลายๆที่แล้วจะตัดสินใจลงเรียนที่ไหน แต่ถ้าอยากลองหาที่ๆใช่ในราคาที่ไม่แพง โควต้าของพี่เริ่มต้นหลักพันแถมคลาสสดแก้ปัญหาไม่จำกัดครั้งให้ด้วยน้า

       คือมันคุ้มค่ามากๆที่จะลอง เพราะทางเราปรับตามนักเรียนอยู่แล้วค่ะ ทั้งหลักสูตร วันเวลาเรียน อยากให้เน้นหรือปรับตรงไหนบอกมาได้หมดเลยค่ะ เพราะหลักสูตรจะขึ้นอยู่กับพื้นฐานและพัฒนาการของน้องๆแต่ละคนเลยค่ะ

      ถ้าสนใจลองมาปรึกษาก่อนก็ได้นะคะไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยค่ะ แอดไลน์ @ gimme_eng มาได้เลยค่า ไม่ลงเรียนไม่ว่ากัน ขอแค่สนใจทักมาปรึกษากันก็ดีใจมากๆแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■

 

 ต้องขอขอบคุณ คุณ Gracelynly Jiradechworachot (เกรซลิลลี่ จิระเดชวรโชติ) CMO ของสถาบัน Gimme Eng และธุรกิจในเครือ มากๆเลยนะคะ สำหรับบทสัมภาษณ์สุด Exclusive แบบนี้

ใครที่ต้องการติดตามทางคุณเกรซเพิ่มเติมได้ที่ IG : Gracelynly
หรือ FB :
Gracelynly Jiradechworachot

หรือใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของทางสถาบัน Gimme Eng ดูได้ที่ IG : Gimme_eng
หรือ website :
www.gimme-eng.com ได้เลย

หรือสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่ Line : @gimme_eng (มี@) ไปได้เลยค่ะ

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น