ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีปรากฎข่าวในสื่อโซเชียล ว่าแก๊งเงินกู้อุกอาจบุกทวงเงิน จนเกิดทะเลาะวิวาทกลางตลาดสด เมืองปัว เหมือนไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองอะไรเลย ใครถือหางอยู่หรือเปล่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
ตำรวจ ภ.จ.น่าน ได้ตรวจสอบข่าวที่เกิดขึ้นแล้วได้ความปรากฎว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 05.20 น. ร.ต.อ.ประทิน ไชยยงค์ พงส.สภ.ปัว ได้รับแจ้งเหตุจาก ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจ ภ.จ.น่าน แจ้งว่ามีเหตุทำร้ายกันที่บริเวณที่ตลาดสดเทศบาลปัว หมู่ 3 ต. ปัว อ. ปัว จ.น่าน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เจริญ สุริยงค์ ผกก.สภ.ปัว ,พ.ต.ท.สัณห์ ล้านมา รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.กระจ่าง จิตอารี รอง ผกก.(สอบสวน) , พ.ต.ท.สมชาย ปาละ สว.สส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทราบและเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ นายสมจิต อายุ 65 ปี เล่าว่าได้ถูกวัยรุ่นใช้เหล็กทำร้ายร่างกาย เมื่อเวลาประมาณ 05.00 – 05.22 น.
ขณะที่นายเอกชัย กับภรรยา แจ้งว่าขณะที่กำลังขายหมูปิ้งฯ ที่ตลาดสดเทศบาลปัว(ตลาดบน) ได้มีชาย 2 คน นั่งรถจักรยานยนต์ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาด้วยกัน มาจอดที่ตรงเขียงหมูของนายสมจิตฯ ระหว่างนั้น ชายคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ได้เดินมาตบหัว นายสมจิตฯ 1 ครั้ง แล้วพูดว่า “มองหน้าหาเรื่องหรือ อยากตายใช่มั้ย“ นายเอกชัยฯ จึงถามว่าตีลุงเค้าทำไม จากนั้นชายคนดังกล่าว ก็ขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกไป จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 05.22 น.ของวันเดียวกัน ชายคนที่ทำร้ายนายสมจิตฯ ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง แล้วเดินตรงมาหานายเอกชัย ฯ และใช้กระบอกเหล็กสามท่อนทุบตีทำร้ายนายเอกชัยฯ หลายครั้งที่บริเวณศีรษะและใบหน้า นายเอกชัยฯ จึงได้ใช้ไม้ทุบหมูปิ้งคอยป้องปัด ป้องกันตัว จากนั้นคนร้ายก็วิ่งออกไปซ้อนรถจักรยานยนต์หลบหนีไป หลังเกิดเหตุจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดังกล่าว
พ.ต.อ.เจริญ สุริยงค์ ผกก.สภ.ปัว ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ และได้จัด จนท.ชุดสืบสวนออกติดตามหาตัว เพื่อนำตัวคนที่ก่อเหตุในคดีนี้มาดำเนินคดี ส่วนนายสมจิตฯ พ่อค้าหมูสดและนายเอกชัยฯ พ่อค้าหมูปิ้งไม่รู้จักกับคนร้ายมาก่อน ได้รับบาดเจ็บ หัวแตกเย็บ 4 เข็ม แผลใต้ตาซ้ายแตก และแผลถลอกที่นิ้วหัวแม่มือขวา
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. นายณัฐพล ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวต่อ พงส.สภ.ปัว พร้อมนำกระบองเหล็กสามท่อน มามอบให้ พงส. โดยรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ทำร้ายนายเอกชัยฯ ผู้เสียหายตามวันเวลาเกิดเหตุจริง โดยอ้างว่าขณะที่นายณัฐพลฯ ผู้ต้องหา ไปซื้อไก่ทอด ได้เดินผ่านนายสมจิตฯ และถูกนายสมจิตฯ ต่อว่า “ไอ้ขยะสังคม” จึงรู้สึกโกรธและก่อเหตุดังกล่าวข้างต้นขึ้น ส่วนสาเหตุมาจากที่นายณัฐพลฯ เมาสุรา และเข้าใจผิดว่าถูกคู่กรณี ด่าตนเอง ต่อมาได้เห็นคลิปของตนเองตามที่ปรากฏภาพเคลื่อนไหว(คลิป)ในสื่อโซเชียล กรณีใช้อาวุธทำร้ายกันที่ตลาด สดเทศบาลปัว
จึงได้มามอบตัวดังกล่าว พงส.สภ.ปัว ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ให้ทราบ ตามคดีที่ 38/65 เพื่อดำเนินคดีต่อไป ข้อเท็จจริง เป็นเหตุทะเลาะวิวาท ของพ่อค้าในตลาดแล้ว ทำร้ายร่างกายกัน มิได้เป็นกรณีแก๊งเงินกู้ บุกทวงเงิน กลางตลาด แต่อย่างใด
ร่วมแสดงความคิดเห็น