ทม. แพร่ จัดกิจกรรมตักบาตรบนเมก เชิญชวนพุทธศาสนิกชนเข้าวัดทำบุญในช่วงสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 07.00 น. สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพร่ พร้อมด้วยผู้อำนวยการกองการศึกษา พนักงานเทศบาล ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและนักเรียนโรงเรียนเทสบาลวัดเหมืองแดง สโมสรไลออนส์แพร่ สโมสรโรตารี สโมสรโรตารีเวียงโกศัย สโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด ชมรมร้านอาหารแผงลอยและพี่น้องประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรบนเมก ณ บริเวณประตูชัยกำเเพงเมืองแพร่ (เมก) รณรงค์การใช้ตะกร้าหรือถุงผ้าแทนถุงพลาสติกในการใส่ของทำบุญตักบาตร แต่งกายด้วยผ้าพื้นเมือง รักษาอัตลักษณ์การแต่งกายของจังหวัดแพร่และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป

จากนั้นรับฟังธรรมเทศนาจากคณะพระสงฆ์วัดสองแคว ว่าด้วยเรื่องของ “การดำเนินชีวิต” ซึ่งต้นปีใหม่แบบนี้ทุกท่านก็คงจะตั้งปณิธานของตัวเองเอาไว้ว่าปีนี้จะทำอะไร จะดำเนินชีวิตอย่างไรในปีนี้ อาตมาก็มีแนวทางดำเนินชีวิตมาแนะนำเป็นของอาตมาเอง ซึ่งบางคนที่เป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คอาจจะสงสัยว่าทำไมพระคุณเจ้าโพสว่า “ปีนี้จะอยู่อย่าง โง่ จน เจ็บ” จะมีใครปรารถนาความโง่ ความจน ความเจ็บ คนเราส่วนมากก็ต้องการความฉลาด ความรวยและต้องการสุขภาพที่แข็งแรง อาตมามองว่าถ้าเราคิดว่าเราโง่ เราจะพยายามขวานขวายหาความรู้หาประสบการณ์ ถ้าเราคิดว่าเราจน เราจะมีอุตสาหะ วิริยะ เลี้ยงตนให้ชอบเป็นสัมมาอาชีพ ไม่มีความเกียจคร้าน เจ็บคืออะไร พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” หากเราคิดว่าสังขารของเรามีแต่โรค เราก็จะหันมาดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจของเรา สิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพก็ทำสิ่งนั้น ใจของเราก็เช่นเดียวกันอะไรที่ไม่ดีก็คัดสรรไม่เอามาหมักหมมอยู่ในใจ เราควรจะดำเนินชีวิตด้วยสติ สติเป็นตัวคุ้มครองเราได้ดียิ่งกว่าเครื่องรางของขลังใดๆ ทั้งสิ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น