พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การส่งเสริมผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยให้จำหน่ายสินค้ามาตรฐาน มอก.

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565  เวลา 14.30 น. นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมให้เกียรติมาเป็นประธานสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การส่งเสริมผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยให้จำหน่ายสินค้ามาตรฐาน มอก.เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค”ระหว่าง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)กับชมรมตลาดสดเมืองเชียงใหม่ และตลาดมีโชคพลาซ่า ณ ลานกิจกรรมมีโชคพลาซ่า จังหวัดเชียงใหม่

นายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญและเล็งเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ จนทำให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกับตลาดสดเมืองเชียงใหม่และตลาดมีโชคพลาซ่า ในวันนี้

จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ประมาณ 20,107.057 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 1,785,791 คน มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 และยังเป็นศูนย์ทางเศรษฐกิจของภาคเหนือ มีการเชื่อมโยงทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศหลากหลายช่องทาง จึงเป็นพื้นที่ซึ่งสร้างโอกาสในการประกอบธุรกิจ ตลอดจนสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับทั้งประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ รวมถึงนักธุรกิจ และนักลงทุนจากต่างพื้นที่โดยภาคอุตสาหกรรมถือเป็นหนึ่งในสาขาธุรกิจที่มีความสำคัญ และเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่มาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนมากที่สุดของจังหวัด ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากพืช กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น นอกจากผลิตภัณฑ์กลุ่มอุตสาหกรรม จังหวัดเชียงใหม่ยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ สินค้า OTOP ที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือที่เรียกว่า “อัตลักษณ์ล้านนา” เช่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องปั้นดินเผา ไม้แกะสลัก การนวดแผนไทย ที่สามารถทำตลาดได้ทั้งในต่างประเทศและต่างประเทศ

ในวันนี้ นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ผู้บริหารจาก 15 ตลาดในอำเภอเมืองเชียงใหม่และตลาดมีโชคพลาซ่า ได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการประสานความร่วมมือกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้ประกอบการร้านค้า ได้มีความรู้ความเข้าใจในการจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน และถูกต้องตามกฎหมาย ส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคในจังหวัดเชียงใหม่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานด้วยเช่นกัน ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าการที่ทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง จะทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นต้นแบบให้แก่จังหวัดอื่น ๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ ในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน สุดท้ายนี้ ผมขอให้พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ

นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวว่า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. เป็นสถาบันมาตรฐานแห่งชาติ ดำเนินงานด้านการมาตรฐานของประเทศ โดยมีภารกิจสำคัญด้านการกำหนดมาตรฐาน และการตรวจสอบรับรอง รวมถึงการส่งเสริมด้านการมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้สามารถแข่งขันได้ ตลอดจนคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าอุตสาหกรรม โดยการควบคุมและกำกับติดตามการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะร้านค้า รายย่อยขนาดเล็กที่กระจายตัวอยู่ในตลาดตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ยังขาดความรู้ด้านการมาตรฐาน จึงจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องให้ความรู้ในการเลือกสินค้ามาจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อมิให้เกิดการกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดย สมอ. เริ่มนำร่องในจังหวัดปทุมธานีเป็นแห่งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อในจังหวัดปทุมธานีจำนวน 33 แห่ง รวมทั้งได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าที่อยู่ในการควบคุมของ สมอ. จำนวน 125 รายการและบทลงโทษกรณีจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานให้แก่ร้านค้ารายย่อยที่อยู่ในตลาดดังกล่าวด้วย

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ที่ สมอ. ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อลงนามความร่วมมือกับชมรมตลาดสดเมืองเชียงใหม่ที่มีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อ จำนวน 15 แห่ง และตลาดมีโชคพลาซ่า รวมเป็น 16 แห่ง ที่จะประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันส่งเสริมความรู้ด้านการมาตรฐานให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า    รายย่อยภายในตลาดของตนเอง ให้จำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐานถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อมิให้เกิดการกระทำความผิด รวมทั้งเฝ้าระวังมิให้มีการจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารให้กับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย เพื่อให้สามารถเลือกสินค้าที่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายได้อย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในด้านการคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป

หลังจากนี้ สมอ. มีแผนที่จะขยายผลต่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ต่อไปอีกด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน จากร้านค้าที่มีมาตรฐานเช่นกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น