กรมฝนหลวง เปิดปฏิบัติการฝนหลวง ส่งอัลฟ่าเจ็ท บินเหนือท้องฟ้า ที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ ยับยั้งความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บ ช่วยเหลือประชาชน
วันที่ 22 ก.พ.65 นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นประธานเปิดปฏิบัติการฝนหลวง ยับยั้งความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บ ภายใต้ความร่วมมือกับกองทัพอากาศ ประจำปี 2565 โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ให้การต้อนรับ เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งและบรรเทาความรุนแรง ของการเกิดพายุลูกเห็บในช่วงฤดูร้อน หรือช่วงที่กำลังเปลี่ยนฤดูกาล ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมและเขตชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 อำเภอเมืองเชียงใหม่
นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า สำหรับในปี 2565 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เปิดหน่วยปฏิบัติการจำนวน 2 หน่วย ได้แก่หน่วยปฏิบัติการ จ.เชียงใหม่ ใช้อากาศยานเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 หรืออัลฟ่าเจ็ท จำนวน 1 ลำ รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ และ หน่วยปฏิบัติการ จ.พิษณุโลก ใช้อากาศยาน Super King Air 350 ของกรมฝนหลวงฯ จำนวน 2 ลำ รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกองทัพอากาศในการสนับสนุนอากาศยาน และบุคลากรในการดำเนินงานร่วมกัน ปฏิบัติการฝนหลวงในภารกิจยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ โดยการใช้วิธีโจมตีด้วย “พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์” เป็นวิธีที่จะนำสารฝนหลวงซิลเวอร์ไอโอไดด์ เพื่อเร่งกระบวนการทางธรรมชาติ ทำให้ผลึกน้ำแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นเม็ดน้ำ ละลายตกลงมาเป็นน้ำฝน ซึ่งจะช่วยบรรเทาความรุนแรง และความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรของประชาชน อันเกิดจากพายุลูกเห็บลงได้
นอกจากนี้ ในปี 2564 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการเพื่อปฏิบัติภารกิจยับยั้งความรุนแรงของพายุลูกเห็บ จำนวน 2 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยฯ จ.เชียงใหม่ และ หน่วยฯ จ.พิษณุโลก ปฏิบัติการระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-31 พฤษภาคม 2564 รวม 31 วัน 38 เที่ยวบิน ใช้พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ทั้งสิ้น 810 นัด ผลจากการปฏิบัติการพบว่า ไม่มีรายงานการเกิดลูกเห็บตกในบริเวณที่ปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตาม อาจยังคงมีข่าวการเกิดลูกเห็บตกอยู่บ้าง นอกเหนือจากพื้นที่ปฏิบัติการ เนื่องจากข้อจำกัดและจำนวนอากาศยาน ที่มีและการเลือกพิจารณาพื้นที่เป้าหมายสำหรับปฏิบัติการ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ชุมชน ที่อยู่อาศัย และพื้นที่การเกษตรก่อน เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของนิรภัยการบิน เช่น ไม่สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่แนวชายแดนได้ เนื่องจากเป็นอากาศยานความเร็วสูง ทั้งนี้ได้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยขณะนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่การเกษตร มาตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 4 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ จ.พิษณุโลก จ.นครสวรรค์ และ จ.ขอนแก่น และจะมีการเปิดปฏิบัติการฝนหลวงอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 3 มีนาคม 2565 ณ สนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมตั้งหน่วยปฏิบัติการ จำนวน 10 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ จ.ตาก จ.แพร่ และ จ.พิษณุโลก หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง จ.นครสวรรค์ และ จ.กาญจนบุรี หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุดรธานี และ จ.บุรีรัมย์ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก จ.จันทบุรี และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ร่วมแสดงความคิดเห็น