กรมอนามัย ย้ำร้านอาหารเข้มความสะอาด ‘สถานที่ปรุง – พื้น – โต๊ะ – กำจัดขยะ’ ตัดตอนแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์นำโรค

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ย้ำร้านอาหารคุมเข้มความสะอาดของสถานที่จำหน่ายอาหาร ตามกฎกระทรวงสุขลักษณะสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ.2561 ตั้งแต่สถานที่ปรุงประกอบอาหาร บริเวณพื้น โต๊ะที่นั่งกินอาหารอย่างสม่ำเสมอ และจัดการขยะตามหลักสุขาภิบาลทุกวันไม่ให้มีขยะตกค้าง ป้องกันแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์นำโรค เช่น หนู แมลงสาบ
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพอาหารลงบนโซเชียล หลังจากที่เข้าไปกินอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ชาบูเจ้าดังบนห้างแห่งหนึ่ง แล้วเจอแมลงสาบนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดกรณีดังกล่าว จึงขอเน้นย้ำให้ร้านอาหารทุกร้าน ทุกสถานที่ ทำความสะอาดของสถานที่จำหน่ายอาหารตามกฎกระทรวงสุขลักษณะสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ.2561 ตั้งแต่สถานที่ปรุงประกอบอาหาร บริเวณพื้น โต๊ะ ที่นั่งอย่างสม่ำเสมอ ด้วยน้ำผงซักฟอกหรือ น้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อหลังจากปิดบริการทุกวัน รวมทั้งควรทำความสะอาดหม้อชาบู ภาชนะ อุปกรณ์ตามหลักสุขาภิบาลอาหาร โดยขูดเศษอาหารที่ติดกับหม้อออกก่อนแล้วล้างด้วยน้ำเปล่า จากนั้นล้างด้วยน้ำผสมสารทำความสะอาด เพื่อล้างคราบไขมัน เศษอาหาร และสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ โดยใช้ฟองน้ำ ผ้าสะอาด หรือแผ่นใยสังเคราะห์ช่วยในการทำความสะอาด แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2 ครั้ง เพื่อล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ยังติดค้างอยู่ ออกให้หมด ส่วนภาชนะอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ล้างแล้วต้องนำมาคว่ำไว้บนตะแกรงหรือตะกร้า ซึ่งวางสูงจากพื้น อย่างน้อย 60 เซนติเมตร แล้วปล่อยให้แห้งเองและต้องมีการจัดเก็บที่สามารถป้องกัน ไม่ให้เกิดการปนเปื้อน
“สำหรับเศษอาหารและเศษผักผลไม้ ควรเก็บไว้ในภาชนะที่ไม่รั่วซึม มีฝาปิดมิดชิด และนำไป กำจัดอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งมีการกำจัดขยะ และหมั่นล้างทำความสะอาดถังขยะไม่ให้มีเศษขยะ หมักหมมอยู่เสมอ รวมทั้งทำความสะอาดพื้นที่ห้องครัวเป็นประจำ เพื่อลดแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์นำโรคต่าง ๆ ทั้งนี้ การกำจัดสัตว์นำโรคต่าง ๆ เช่น หนู แมลงสาบ ทำได้โดยปิดช่องทางหนูวิ่งเข้าออกด้วยลวดตาข่าย แผ่นโลหะ คอนกรีต อิฐ หรือวัสดุอื่น ๆ กรณีที่เป็นประตูไม้ตามขอบและมุมของด้านล่างควรหุ้มด้วยโลหะ เพื่อป้องกันหนูแทะ ส่วนการป้องกันแมลงสาบ ควรปิดปากถังขยะให้มิดชิด รวมถึงดูแลห้องครัว หรือห้องเก็บของไม่ให้รกรุงรังและอับชื้น เพื่อกำจัดแหล่งที่อยู่อาศัยและลดการเพาะพันธุ์ต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น