ชาวบ้านไม่ไหวจะทน พากันมั่วสุมเสียงดังยันสว่าง

ชาวบ้านท่าล้อสุดทนพฤติกรรมวัยรุ่นมั่วสุมริมน้ำน่านตั้งแต่หัวค่ำยันรุ่งเช้า วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจแก้ไขปัญหาระยะยาวทำที่พักสายตรวจ มีตำรวจประจำป้องกันปัญหาอาชญากรรม ทั้งมั่วสุมเสพยา ดื่มสุรา ทะเลาะวิวาท ที่ผ่านมาทนทุกข์กว่าครึ่งปีช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดก็ยังมั่วสุมดื่มสุรา ส่วนใหญ่มาเป็นคู่หนุ่มสาว เยาวชน นักเรียน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณริมน้ำน่าน บ้านท่าล้อ  ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน หลังชาวบ้านร้องเรียน ว่าเป็นแหล่งมั่วสุม ดื่มสุราเสียงดัง เปิดเพลงเสียงดัง โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง บรรยากาศสวยงามเป็นที่พักผ่อนชมบรรยากาศริมน้ำน่าน แต่ช่วงค่ำกับกลายเป็นเหล่งมั่วสุมของเยาวชนนักเรียนมั่วสุม ชาวบ้านสุดทนเสียงดังยันรุ่งสาง ตี 3 ตี 4 ไม่ได้หลับไม่ได้นอน บางหลังบ้านราคาหลายล้านอยู่ไม่ได้เพราะเสียงดัง ต้องพากันไปนอนกลางสวนครึ่งปีแล้ว หลังๆมาหนักกว่าเดิม ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ขับรถเสียงท่อเสียงดัง

โดยบริเวณริมน้ำพบ ก้นบุหรี่เกลื่อน ทั้งขวดเหล้าเบียร์แตกเป็นจำนวนมากคาดวัยรุ่นมั่วสุมกันดื่มเสร็จก็ปาขวดลงพื้นแตก ส่วนบริเวณข้างสนามวู๊ดบอลพบซองบุหรี่ถูกดัดแปลงคาดว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพยาเสพติดซุกซ่อนบริเวณใต้หลังคา เพราะเป็นสถานที่เปลี่ยวลับตาคน

ด้าน คุณยายน้อย นามสมมุติ บ้านอยู่ใกล้บริเวณริมน้ำน่านบริเวณดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า ตนเองอายุ 70 กว่าแล้ว และป่วยเป็นโรคากิมสัน วัยรุ่นจะมารวมตัวมั่วสุมกันทุกวัน จะเริ่มเสียงดังกันตั้งแต่เวลา 3-4 ทุ่ม ยาวไปจนถึงตี 4 โดยช่วงเวลาตี 2 จะเสียงดังมาก เพราะเป็นช่วงเวลาดึกสงัด เสียงจึงดังก้อง

แจ้งทางตำรวจให้มาตรวจสอบก็ใช้เวลานาน พอมาวัยรุ่นที่มั่วสุมก็จะขับรถหนีเสียงดังเข้าไปในซอย ไปแอบกันอยู่บริเวณหลังวัดท่าล้อ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปก็จะขับรถท่อเสียงดังวนกลับมามั่วสุมเหมือนเดิม เป็นอย่างนี้ทุกคืน
ข้างบ้านที่อยู่ใกล้กัน ก็ทนไม่ไหวจึงหนีไปนอนอยู่กลางสวน ทุกวันนี้ก็ป่วย จะสะดุ้งตื่นตกใจเสียงดังทุกวัน จนไม่รู้จะทำอย่างไรกับปัญหาดังกล่าว อยากให้ตำรวจมาสร้างตู้ยามอยู่บริเวณดังกล่าว ทุกวันนี้กว่าจะได้นอนก็ตี 4

ด้านคุณบอย ชาวบ้านในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นช่วงที่มีอากาศเย็น กลุ่มวัยรุ่นมักไปนำท่อนไม้ที่ชาวบ้านนำมาปักไว้เป็นแนวปลูกต้นไปหรือค้ำยันกิ่งไม้ไปเผาผิงไฟแก้หนาวคุยกันเกือบสว่าง หรือบางคนพกเตาอั้งโล่พร้อมถ่านมาจุดนั่งผิงไฟ ทั้งๆ ที่ทางจังหวัด ประกาศห้ามตามมาตรการควบคุมโรค ห้ามรวมตัวกันดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่ไม่พบหน่วยงานไหนจริงจังในการแก้ไขปัญหา

ร่วมแสดงความคิดเห็น