ทม.แพร่ สืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นจัดกิจกรรม “ตักบาตรบนเมก”

วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 เวลา 07.00 น. ผู้บริหารเทศบาลเมืองแพร่ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพร่ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ ผู้อำนวยการกองการศึกษา พนักงานเทศบาล ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดสวรรคนิเวศ สโมสรไลออนส์แพร่ สโมสรลีโอแพร่ สโมสรโรตารี สโมสรโรตารีเวียงโกศัย สโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด ชมรมร้านอาหารแผงลอยและพี่น้องประชาชน ร่วมสร้างบุญสร้างกุศลทำบุญตักบาตรบนเมก พร้อมทั้งเชิญชวนแต่งกายด้วยผ้าพื้นเมืองและรณรงค์การใช้ตะกร้าหรือถุงผ้าแทนถุงพลาสติกในการใส่ของทำบุญตักบาตร ณ บริเวณประตูชัยกำเเพงเมืองแพร่ (เมก)

จากนั้นได้รับฟังธรรมเทศนาจากคณะพระสงฆ์วัดหัวข่วง ว่าด้วยเรื่องของคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์อันเป็นหัวใจสำคัญ 3 ประการ คือ 1) การไม่ทำบาปทั้งปวง 2) การทำความดีให้ถึงพร้อม 3) การทำใจให้บริสุทธิ์ ทั้ง 3 ประการนี้มีความสำคัญเท่าๆ กัน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ “การไม่ทำบาปทั้งปวง” และมีนิทานสั้นๆ อยากจะเล่าให้โยมทั้งหลายฟังเพื่อให้กำลังใจ นานมาแล้วในหนทางซึ่งลำบาก มีลำธารที่ขวางกั้นอยู่และเฉอะแฉะและบนฝั่งลำธารนั้นมีรูปปั้นเทพเจ้าตั้งอยู่ ปรากฏว่ามีชายคนนึงเดินมาถึงที่ริมฝั่ง ปรากฏว่าจะข้ามลำธารแต่จะข้ามไปก็เฉอะแฉะ เหลือบไปเห็นรูปปั้นเทพเจ้าก็เลยยกเอามาวางที่ลำธารแล้วใช้เป็นทางเดินข้ามลำธารไป

ในขณะเดียวกันอีกฝั่งนึงก็มีชายหนุ่มกำลังจะข้ามลำธารเหมือนกัน ชายหนุ่มคนนั้นเห็นเทพเจ้าอยู่ในลำธารก็ตกใจ เดินไปยกรูปปั้นเทพเจ้านั้นมาตั้งประดิษฐาน ณ ที่เดิม ปรากฏว่าเทพเจ้ากลับสาปแช่งชายหนุ่มคนที่เอากลับมาไว้ที่เดิม ฝ่ายเทวดาทั้งหลายทั้งปวงก็สงสัยว่าทำไมเทพเจ้าถึงได้สาปแช่ง เทพเจ้าองค์นั้นจึงตอบว่า “นี่แหละคนดีถูกกลั่นแกล้งได้ง่าย..ไม่เหมือนคนไม่ดีทำอะไรก็ไม่ค่อยได้” เพราะฉะนั้นเทพเจ้าจึงสาปแช่งคนดี เปรียบเสมือนว่ากลั่นแกล้งคนดีง่ายกว่า แต่ท่านทั้งหลายก็จงอย่าได้หมดกำลังใจต่ออุปสรรคต่างๆ เรียกว่ามารไม่มีบารมีไม่เกิดนั่นเอง