โบรกเกอร์ Forex ในไทย (Thaiforexbroker) แข่งขันกันมากขนาดไหน

ถ้าบอกว่าโบรกเกอร์ในไทยแข่งกันมากแค่ไหน ก็แข่งกันอย่างมากมาย เพราะมีโบรกเกอร์เกิดใหม่ทุกวัน และเรื่องที่ โบรกเกอร์ Forex แข่งขันกันสูง แกร่งแย่งเอาชนะกันมากที่สุด คือ ความน่าเชื่อถือ, ค่าบริการ, โบนัส, ฝากถอนเร็ว โบรกไหนทำได้ดีกว่า ก็จะถือครองลูกค้าได้มากกว่านั้นเอง

มารู้หน้าที่ของโบรกเกอร์ Forex
การแข่งขันสูงจำเป็นต้องรู้หน้าที่ขอตัวเองดี คือ ต้องแนะนำหรือช่วยแก้ไขเรื่องต่างๆได้ ทั้งการบริการเปิดบัญชี,ตรวจสอบเอกสาร,การฝากถอนเงิน และเป็นผู้ให้บริการแพลทฟอร์มการเทรดที่ดีด้วย

คือ ต้องเป็นตัวแทนในการดำเนินการซื้อขายสินทรัพย์ในตลาด Foreign Exchange ซึ่งต้องผลักดันตัวเองให้เป็นโบรเกอร์ Forex ที่มีคุณภาพตามกฎหมายสากลด้วย เพื่อให้กับนักลงทุนได้มีสิทธิเลือกที่จะมาเทรดในตลาด Forex โดยใช้วิธีการซื้อ-ขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราหลากหลายสกุล

1. ความน่าเชื่อถือ
หมายถึง มีความปลอดภัยมากในการลงทุนมากที่สุด เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเทรด Forex ซึ่งโบรกเกอร์จะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้นักลงทุนไปเทรดด้วยนั้น ควรต้องมีใบอนุญาตการกำกับดูแลตามกฎหมายสากลอย่างชัดเจน และต้องมีความมั่นคงโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เพื่อคอยช่วยเหลือชดเชยผลประโยชน์ต่างๆ ที่สูญเสียไป ถ้าหากตัวโบรกเกอร์ Forex หนีหายหรือปิดตัวลง

ใบอนุญาต Forex ที่น่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Forex ดูจากหน่วยงานที่กำกับดูแล ตรวจสอบการเงิน และการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ FCA, CySEC, ASIC, IFSC เป็นต้น

2. ค่าบริการ (Spread,commission,Swap)
โบรกเกอร์ Forex มักแข่งขันกันสูง ในส่วนของค่าบริการ เพราะมันคือส่วนที่ทำให้นักลงทุนตลาด Forex มีต้นทุนที่ต่ำ คือ ถ้าค่าบริการถูก ต้นทุนการเทรด ก็จะถูกลงด้วย จึงเป็นปัจจัยต้นทุนที่สำคัญมากในข้อนี้

Spread
คือ ส่วนต่างระหว่างราคา ซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ของแต่ละคู่เงิน (Base currency) รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแต่ละโบรกเกอร์ด้วย

อธิบาย: โบรกเกอร์ Forex จะกำหนดส่วนต่างระหว่างราคาซื้อขายนี้ขึ้นมา ส่วนหนึ่งก็เพื่อคิดค่าบริการแก่ผู้ซื้อ-ขาย และอีกส่วนหนึ่งก็เพื่อป้องกัน ความเสี่ยง และโบรกเกอร์จะหาผู้ซื้อขายในสัญญาตรงข้าม เพื่อหักล้างสถานะที่รับมาจากเทรดเดอร์ ซึ่งส่งคำสั่งซื้อ-ขาย เข้าไปยังโบรกเกอร์นั่นเอง

Swap
คือ เงินค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย เมื่อถือสถานะข้ามคืน โดยจะคิดจากผลต่างของอัตราดอกเบี้ย Overnight Interest หรือเรียกว่า ค่าธรรมเนียมในการ Rollover ของสัญญาซื้อขาย Forex ก็ได้

อธิบาย: โบรกเกอร์ Forex จะคิดค่า Swap ตามเวลา Server ที่โบรกเกอร์ใช้ นับเป็นช่วงเวลา 0.00 น. โดยจะมีการยกค่า Swap ของวันเสาร์และอาทิตย์ มาคิดในคืนวันพุธ ทำให้ค่า Swap วันพุธจะมากกว่าปกติถึง 3 เท่าด้วย

Commission
คือ ค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากเทรดเดอร์ในฐานะผู้ให้บริการ
อธิบาย: ใหญ่โบรกเกอร์ Forex จะบอกว่าเป็นการเก็บค่า เพื่อเลือกผู้ให้บริการสภาพคล่องที่ให้ราคาที่ดีที่สุด อีกทั้งค่า Spread ของโบรกเกอร์นั้นอาจจะน้อย หรือบางโบรกหรือบางระบบบัญชีก็คิดทั้งสองอย่างเลย ส่วนใหญ่จะมีวิธีการที่สลับซับซ้อนให้ตามไม่ทันเสมอๆอยู่แล้วในข้อนี้

3. โบนัส
คือ กลยุทธ์ทางการตลาดผลการคืนกำไรชนิดหนึ่งที่โบรกเกอร์ให้เป็นทุน สะสมไว้ใช้เทรดต่อไปได้ ซึ่งในแต่ละโบรกเกอร์ที่ให้โบนัส ก็เพื่อเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก จะมีรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ของแต่ละโบนัส ที่แต่ละโบรกเกอร์ได้กำหนดไว้ โบนัสส่วนใหญ่จะแยกออกได้ 2 ประเภท คือ โบนัสแบบไม่ต้องฝากเงิน กับโบนัสเมื่อมีการฝากเงิน

4. การฝาก ถอน เงินเร็ว
คือ ข้อนี้มีอิทธิพลสูงมาก หากโบรเกอร์ Forex ไหนล่าช้า นักลงทุนจะเริ่มระแวงและไม่ไว้ใจโบรกเกอร์นั้นเลย จะพบเจอหัวข้อนี้เป็นกระทู้ ให้นักเทรดเดอร์มาตอบกันบ่อยมาก เป็นเพราะความน่าเชื่อถือได้ลดน้อยลงจากความช้า นั้นเอง

สรุป
การแข่งขันของแต่โบรกเกอร์ Forex ที่สูงที่สุด ไม่เพียงแค่นั้น แต่การที่จะทำให้โบรกอยู่ได้อย่างยาวนาน คือโบรกต้องทำหน้าเพื่อยึดครองใจนักลงทุนให้ได้ด้วย นั้นคือเรื่องของ ความน่าเชื่อถือ, ค่าบริการ, โบนัส, ฝากถอนเร็ว เพราะการเริ่มต้นที่ดีของการเริ่มต้นเทรด Forex และต่อให้โบรกเกอร์จะเกิดใหม่มากแค่ไหน ขอให้ผู้เล่นเลือกโบรกเกอร์ อย่างตระหนักถึงความเป็นจริง และความเป็นไปต่อต่อกำไรที่จะเกิดขึ้น สุดท้ายรวยได้ไม่ยากอยู่ที่วิธีการที่ดีด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น