ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทเอกชน หรือหัวหน้าส่วนราชการ ว่าสามารถนำโครงการพัฒนาโครง สร้างพื้นฐาน หรือโครงการต่างๆ โดยใช้งบประมาณของทางภาครัฐได้ แลกกับค่าดำเนินการต่างๆ ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องจริง หากเป็นโครงการของภาครัฐ จะมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
จากกรณีมีผู้ไปแอบอ้างว่า ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดน่าน ไปหลอกผู้นำชุมชนในพื้นที่ ตำบลบ่อเกลือเหนือ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ว่าสามารถวิ่งเต้นนำโครงการมูลค่า 55 ล้านบาท แลกกับเงินค่าประเมินแบบโครงการ 1.3 % สูญเงินกว่า 700,000 บาท
โดยจากแหล่งข่าวในพื้นที่เปิดเผยข้อมูลให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา มีนาย 18 มงกุฎ (นามสมมุติ) ได้โทรศัพท์ติดต่อมายังผู้นำชุมชนว่า มีโครงการจากจังหวัดน่าน โดยกองทุนหมู่บ้านจังหวัดน่าน ลงเฉพาะตำบลบ่อเกลือเหนือ มีหมู่บ้านไหนต้องการบ้าน มีเฉพาะบ่อบาดาล และเมรุเผาศพ สามารถดำเนินการได้ทุกหมู่บ้าน หลายหมู่บ้านซึ่งประสบปัญหาภัยแล้งทุกปีอยู่แล้ว รวมทั้งหลายหมู่บ้านก็ขาดเมรุเผาศพ จากนั้นก็อ้างว่ารู้จักกับเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ในจังหวัดน่าน ว่าทางเจ้าของบริษัทใจบุญจะบริจากสร้างสนามก็ฬาประจำตำบล รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน และสะพาน โดยแลกกับค่าประเมินแบบก่อสร้าง 1.3 %
โดยเหตุที่หลงเชื่อนั้น เนื่องจากในคราที่ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้มาปฏิบัติราชการที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อเกลือเหนือ ได้พูดคุยกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อเกลือเหนือ เรื่องการพัฒนาพื้นที่ แล้วนาย 18 มงกุฎ (นามสมมุติ) มากล่าวอ้างว่า ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งได้รับมอบหมายจากเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่ เลยไม่เอะใจ เพราะเป็นโครงการที่เคยขอรับ จึงมอบทั้งเงินสด และโอนผ่านบัญชี ให้นาย 18 มงกุฎ (นามสมมุติ) รวม 11 หมู่บ้าน จำนวน 700,000 บาท
โดยนาย 18 มงกุฎ (นามสมมุติ) หลอกให้ไปถ่ายรูปสถานที่ก่อสร้าง หลอกให้ประชุมชาวบ้านเพื่อขอมติยินยอม และให้จ่ายค่าประเมินแบบโครงการ รวม 55 ล้านบาท ให้จ่ายค่าประเมินแบบ 700,000 บาท โดยผู้นำบางคนไม่มีเงินก็ไปหาหยิบยืมญาติพี่น้องมาจ่าย บางคนถึงขนาดขายควายเพื่อนำเงินมาจ่ายให้นาย18 มงกุฎ
จนเรื่องมาแดงขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้นำชุมชนสอบถามไปยัง น.ส.ขวัญฤทัย ไตรพรม นายอำเภอบ่อเกลือ ว่าเหตุใดโครงการถึงล่าช้า จึงเกิดการตรวจสอบจนทำให้ทราบว่า เรื่องทั้งหมด นาย 18 มงกุฎ (นามสมมุติ) ได้แต่งเรื่องโดยแอบอ้างทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งเจ้าของบริษัทมาหลอกให้จ่ายเงิน สูญเงินกว่า 700,000 บาท
จากนั้นจึงได้หลอกให้นายชูชีพ ขึ้นมารับเงินอีก 30,000 บาท ที่ในพื้นที่ โดยให้หลายคนแกล้งถามตามคลิปวีดีโอที่แอบบันทึกไว้ แต่เหมือนว่านาย 18 มงกุฎ (นามสมมุติ) รู้ตัวและไหวตัวทัน ขับรถหนีไปทางอำเภอเฉลิมพระ เกียรติ ผู้นำชุมชนจึงขับรถติดตามไปจนทัน ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียรติจับกุม แต่ทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่สามารถจับกุมตัวได้ เนื่องจากยังไม่ได้แจ้งความ หรือมีหลักฐาน เนื่องจากรีบติดตามตัว จนไม่ได้นำเอกสารหลักฐานติดตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียรติ จึงปล่อยตัวไป ทั้งที่มีพยานบุคคล หลายคนยืนยันว่า นาย 18 มงกุฎ ( นามสมมุติ) ได้ก่อเหตุหลอกให้จ่ายเงิน
จึงพากันกลับมา แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบ่อเกลือ พร้อมเอกสารหลักฐานต่างๆ แต่กลับพบเรื่องที่น่าแปลกใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมให้คัดสำเนาบันทึกประจำวัน ทางนายอำเภอบ่อเกลือได้ติดต่อขอบันทึกแจ้งความ ก็อ้างว่าต้องทำหนังสือขอไปทางผู้บังคับบัญชา ทางผู้เสียหายจึงไม่มีสำเนาบันทึกประจำวัน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ติดต่อมาว่า จะนำเงินมาคืนทั้งหมดภายใน 2-3 วัน โดยนัดคืนเงินวันที่ 11 มีนาคม โดยร้องขอไม่ให้เผยแพร่เรื่องราวลงบนโลกโซเชียล ด้าน นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ก็มีข่าวออกมาว่า พื้นที่อำเภอบ่อเกลือมีผู้ไปแอบอ้างชื่อจังหวัด กับบริษัทเอกชนว่าสามารถวิ่งเต้นเอางบประมาณไปลงพื้นที่ได้ โดยมีการไปเรียกรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ในโอกาสนี้ กำนันผู้ใหญ่บ้านได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
ต้องเรียนว่า ในกรณีดังกล่าวนี้ อย่าได้ไปหลงเชื่อเป็นเด็ดขาด เพราะว่าทางจังหวัดหากจะดำเนินการในการขอเสนองบประมาณอะไรต่างๆ จะมีหนังสือแจ้งไปอย่างเป็นทางการ ไม่มีการที่จะไปแอบบอกอะไรกันอย่างนี้เป็นอันขาด
ก็ต้องฝากผู้นำท้องที่ และท้องถิ่น ทั้งหลายนะครับ ว่าต้องใช้วิจารณญาณ อย่าได้ไปหลงเชื่อบุคคลใดๆ ที่ไปแอบอ้าง ถ้ามีปัญหาอะไร ก็ให้สอบถามทางนายอำเภอ หรือสอบถามมายังจังหวัดได้โดยตรง เพราะว่าตอนนี้มีมิจฉาชีพไปแอบอ้างหลอกในพื้นที่ต่างๆ ฝากเตือนพ่อแม่พี่น้องประชาชน และผู้นำท้องที่ด้วยครับ
ในขณะที่เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดน่าน กล่าวว่าบริษัทรับทราบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ยืนยันจากฝ่ายบุคคลแจ้งว่า ไม่มีรายชื่อนาย 18 มงกุฎ ( นามสมมุติ) ดังกล่าวทำงานที่บริษัทรับเหมา ตามที่เอาไปแอบอ้างแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกันทาง น.ส.ขวัญฤทัย ไตรพรม นายอำเภอบ่อเกลือ ได้ทำหนังสือประกาศแจ้งเตือน/เวียนในพื้นที่
– ภายใต้การอำนวยการของ นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่านทุกท่าน และนายวิศิษฐ์ ทวีสิงห์ ปลัดจังหวัดน่าน
– วันที่ 3 มีนาคม 2565 น.ส.ขวัญฤทัย ไตรพรม นายอำเภอบ่อเกลือ ได้รับแจ้งจากกำนันตำบลบ่อเกลือเหนือ ว่ามี นาย 18 มงกุฎ (นามสมมุติ) ได้เข้ามาติดต่อกำนันผู้ใหญ่บ้านในตำบลบ่อเกลือเหนือ โดยแจ้งว่าได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และหจก.แพร่ธำรงวิทย์ ให้มาประสานงานการสนับสนุนงบประมาณผ่านกองทุนหมู่บ้าน ให้แก่ตำบลบ่อเกลือเหนือ ประมาณ 55 ล้านบาท โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งกำนัน ผญบ. ในตำบลบ่อเกลือเหนือ หลงเชื่อและได้มอบเงินจำนวน 7 แสนบาท ให้แก่บุคคลดังกล่าว ในเวลาต่อมา มีผู้ติดต่อสอบถาม หจก.แพร่ธำรงวิทย์ และได้รับแจ้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องดังกล่าว นายชูชีพฯ จึงได้หลบหนีออกจากพื้นที่
– กำนัน ผญบ. ได้ติดตามตัวบุคคลดังกล่าวได้ที่ เขต อ.เฉลิมพระเกียรติ และเข้าแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ แต่จนท.ตำรวจแจ้งว่าไม่มีพยานหลักฐานจึงไม่สามารถดำเนินคดีได้ และได้ปล่อยตัวบุคคลดังกล่าวไป
– ขณะนี้ผู้เสียหายกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เข้าแจ้งความที่ สภ.บ่อเกลือเพื่อติดตามบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป
– จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและประชาสัมพันธ์ให้ทุกอำเภอรับทราบ
ร่วมแสดงความคิดเห็น