(มีคลิป) คนไทยโดนหลอกข้ามน้ำโขง เป็นแก๊งสกิมมิ่งหลอกนักลงทุน ทำงานเยี่ยงทาส

ผู้ว่าฯ เชียงราย ทำหนังสือด่วน ถึงผู้ว่าฯ เมืองห้วยผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เร่งช่วยคนไทยโดนหลอกไปทำงาน โดยแก๊งสกิมมิ่งหลอกลงทุนข้ามชาติ บังคับให้ทำงานวันละ 15 ชั่วโมง ทำงานเหมือนทาส หากไม่ทำจะถูกขายต่อ

เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. 65 ที่ผ่าน ได้มีคนไทยข้ามไปทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามกับ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยได้ติดต่อกลับมายังญาติในฝั่งไทย ว่าถูกหลอกให้ไปทำงาน โดยอ้างว่าจะได้ไปทำงานในคิงส์โรมัน ซึ่งเป็นคาสิโนหลักบนเกาะดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีคนไทยข้ามไปทำงานในคาสิโน และได้รับค่าตอบแทนสูง แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานในตึกที่ห่างจากคาสิโน ถูกบังคับให้ทำงานเป็นแก๊งสกิมมิ่ง สร้างตัวตนปลอมในโลกโซเชียล เพื่อหลอกลวงนักลงทุนให้มาลงทุนหุ้น ทั้งทองคำ และเทรดสกุลเงินดิจิตอล แต่หากไม่ทำงานก็จะถูกขายต่อไปให้กับบริษัทอื่น และต้องการช่วยเหลือให้กลับประเทศไทย โดยมีคนในกลุ่ม 15 คน ทั้งชายและหญิงอายุอยู่ระหว่าง 20-30 ปี

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงที่ ชร.001183/3933 ลงวันที่ 21 ก.พ. 2565 ขอความร่วมมือไปยังเจ้าแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ให้ช่วยเหลือคนไทยที่ไปทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำดังกล่าว โดยระบุว่ามีคนไทยจำนวน 10 ราย ถูกนายหน้าหลอกให้ไปทำงานสกิมเมอร์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ และมีความประสงค์จะขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ในการเดินทางกลับประเทศไทย ดังนั้น จ.เชียงราย จึงขอให้ทางแขวงบ่อแก้วประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยเหลือและคุ้มครองคนไทยทั้งหมด ซึ่งถูกหลอกให้ไปทำงานอยู่ที่ตึกอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง และอาคารที่พักตึกหลังที่ 3

ต่อมาพบว่ามีคนไทยในกลุ่มดังกล่าว ได้หลบหนีออกมาด้วยการนั่งเรือของชาวบ้านข้ามฟากมายังฝั่งไทยได้ 5 คน และมีผู้ที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่เป็นทางการให้กลับมาได้อีก 6 คน ทั้ง 11 คน ได้รับความปลอดภัยในฝั่งไทยแต่ก็เสียเงินค่าเดินทาง ค่าจ้างคนให้พาหลบหนี และไม่ได้เงินค่าจ้างใดๆ นอกจากนี้ ยังเหลือคนไทยอีกอย่างน้อย 4 คนในกลุ่มนี้ที่ยังคงตกค้างอยู่ในโครงการคิงส์โรมัน และมีรายงานว่าล่าสุดแก๊งสกิมมิ่งได้นำทั้ง 4 คน ไปขายต่อให้กับบริษัทอื่นภายในบริเวณเดียวกันแล้ว โดยจากการติดต่อกับญาติในฝั่งไทย ทราบว่าพวกเขาถูกบังคับให้ทำงานวันละ 15 ชั่วโมง และบริเวณที่พักและที่ทำงานยังล้อมด้วยรั้วไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้หลบหนี จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด่วนด้วย

โดยกลุ่มที่ได้หลบหนีออกมาได้เปิดเผยว่า ก่อนที่จะข้ามไปทำงานดังกล่าว มีอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ คนทำงานตามร้านอาหาร สถานบันเทิง มีความสามารถด้านการใช้ภาษา คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต แต่ได้เกิดปัญหาเศรษฐกิจและการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องตกงาน และได้มีนายหน้าที่อยู่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นคนรู้จักคุ้นเคยกันติดต่อให้ไปทำงานในโครงการคิงส์โรมัน ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ โดยอ้างว่าเป็นงานแอดมิน หรือคนควบคุมเวปไซต์ในบ่อนคาสิโนออนไลน์ แลกกับเงินเดือนเบื้องต้นคนละ 30,000 บาท สัญญางาน 6 เดือน ทำให้หลงเชื่อ เพราะคนที่ชักชวนน่าเชื่อถือและโครงการคิงส์โรมัน ก็มีชื่อเสียงรวมทั้งมีบ่อนคาสิโนอยู่ด้วย พวกตนจึงได้ลักลอบข้ามแดนโดยมีกลุ่มขบวนการพานั่งเรือข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว และพาเดินทางด้วยรถยนต์ไปโครงการคิงส์โรมันดังกล่าว

แต่เมื่อทั้งหมดไปถึงก็พบว่าไม่ได้ถูกพาไปที่โครงการคิงส์โรมัน แต่ถูกนำตัวไปที่อาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกบังคับให้สร้างบัญชีปลอมในโซเชียล ทั้ง อินสตาร์แกรม IG และ facebook แล้วให้ขโมยหรือแฮกเกอร์ไปตาม IG และของบุคคลต่างๆ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการชักชวนให้คนเหล่านั้น ได้เข้าไปลงทุนในตลาดหรือเทรดออนไลน์ เช่น เทรดทอง เทรดสกุลเงินดิจิติล อ้างว่าจะได้ผลกำไร แต่เมื่อมีเหยื่อหลงเชื่อแล้วโอนเงินเข้าไปลงทุนก็จะปิด IG และ facebook หนี ทำให้พวกตนไม่อยากทำงาน เพราะนอกจากจะไม่ตรงกับงานที่เคยได้รับแจ้งแล้ว ยังเข้าข่ายผิดกฎหมายและศีลธรรม แต่พวกตนก็ถูกข่มขู่ และภายในที่ทำงานซึ่งเป็นห้องโถงกว้าง มีโต๊ะทำงานประมาณ 50 โต๊ะ มีคนภายในเต็ม ส่วนที่พักที่เป็นตึกสูงต้องนอนเบียดกัน 10 คนต่อ 1 ห้อง และมีห้องน้ำเพียง 1 ห้อง มีเวรยามดูแลไม่ให้หลบหนีอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ ยังข่มขู่พวกตนว่าหากทำงานไม่ได้ หรือหาเหยื่อไม่ได้ตามเป้าที่กำหนด ก็จะถูกนำตัวไปขายต่อไปให้แก๊งอื่นๆ เป็นทอดๆ ไปอีกด้วย ทำให้หลายคนจำใจต้องทำงาน และหลายคนพยายามหลบหนีข้ามมายังฝั่งไทย ซึ่งตั้งแต่เข้าไปทำงานก็ไม่เคยได้ค่าตอบแทนใดๆ แต่หากทำผิดกฎก็จะถูกหักเงินครั้งละมากๆ เช่นไม่เก็บเก้าอี้ ทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย เข้าห้องน้ำนาน ซึ่งการทำงานอยู่ภายในเหมือนตกนรกทั้งเป็น

สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ทางกลุ่มดอกงิ้วคำมีนายจ้าว เหว่ย เป็นประธาน ได้สัมปทานจาก สปป.ลาว เป็นเวลา 99 ปี ในการพัฒนาพื้นที่ประมาณ 10,000 เฮกตาร์ ปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นโครงการคิงส์โรมัน ที่มีทั้งโรงแรม รีอสร์ท อาคารพาณิชย์ ร้านอาหาร ถนน บ่อนคาสิโน ท่าเรือ พื้นที่การเกษตร โดยมีเอกชนหลายหลายสาขาเข้าไปใช้พื้นที่ โดยก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 เคยมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีน เข้าไปปีละกว่า 300,000 คน แต่หลังเกิดวิกฤตได้ปิดพื้นที่ แต่กลับมาเปิดอีกครั้งในปี 2564 และเอกชนหลายรายได้ประกาศรับสมัครพนักงานดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น