หนึ่งในคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นสแกมเมอร์ฝั่งลาว เผยต้องจ่ายเงินเพื่อลอบข้ามกลับฝั่งไทยกว่า 8 หมื่นบาท

 

วันที่ 13 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีมีชาวไทยถูกหลอกไปทำงานเป็นแอดมินเพจคาสิโนฝั่งลาว แต่กลับกลายเป็นว่าถูกบังคับให้ร่วมในแก๊งค์สแกมเมอร์หลอกเหยื่อชาวยุโรปร่วมลงทุน มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อเข้าไปอยู่ในขบวนการนับ 100 ราย ทั้งชาวไทย ชาวลาว และจีน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ชาว อ.แม่จัน จ.เชียงราย เปิดเผยว่า เริ่มแรกเห็นจากประกาศหาคนงานในเฟสบุ๊ก เพื่อไปเป็นแอดมินตอบคำถามของเพจคาสิโนในบ่อนคิงส์โรมัน ฝั่ง สปป.ลาว เงินเดือน 30,000 บาท มีวันหยุดให้ หากไม่หยุดมีเงินเพิ่ม ตนซึ่งกำลังว่างงานก็รู้สึกสนใจ จึงทักไปถามว่าเป็นงานที่ถูกกฏหมายหรือเปล่า ทางนั้นก็บอกว่าถูกกฏหมายทุกอย่าง มีการทำเอกสารให้ นั่งเรือไปตามปกติ หากมีคนมีส่งที่จุดนัดหมายก็จะมีค่าน้ำมันให้ 500 บาท ตนจึงตอบตกลง โดยกำหนดเดินทางเป็นวันที่ 17 ม.ค. 65 วันที่เดินทางตนให้แฟนไปส่งตามจุดนัดหมาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่างบ้านสวนดอก ม.8 ต.บ้านแซว และบ้านปงของเหนือ ม.10 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน เมื่อไปถึงจะมีคนมารอตรงจุดนัด และเมื่อเราไปถึงเขาก็รีบเรียกให้เราเดินตามเขาไป เพื่อไปสมทบกับคนจีนอีก 2 คน ทางที่จะไปตรงจุดที่เรือมารับจะต้องเดินผ่านสวนยางพาราและสวนผักของชาวบ้าน และนั่งรอเรือจากฝั่งลาวมารับ เมื่อขึ้นเรือไปแล้วเขาจะให้นอนราบกับพื้นเรือ ตนรู้สึกเอะใจตั้งแต่ต้องหลบๆซ่อนๆก่อนขึ้นเรือแล้ว เพราะไม่เป็นอย่างที่คุยกันไว้ แต่จะกลับก็กลับไม่ได้ เพราะแฟนที่มาส่งก็กลับไปแล้ว จึงต้องจำใจไปกับเขา

 

เมื่อเดินทางไปถึงฝั่งลาว เขาจะให้ไปซ่อนตัวที่บ้านใกล้จุดจอดเรือและมีรถมารับตัวไปพักที่โรงแรมเซี่ยงไฮ้ พักอยู่ในนั้น 2 คืน ก่อนจะถูกย้ายไปกักตัวในเขตคิงส์โรมันอีก 13 วัน โดยทีแรกเขาว่าจะให้ค่ากักตัววันละ 500 บาท แต่เมื่อครบกำหนดกลับบ่ายเบี่ยง บอกว่าบริษัทไม่มีนโยบายดังกล่าว แต่พวกตนที่ไปด้วยกันในรอบนั้นมีทั้งหมด 10 คน ก็ไปทักท้วงกับนายหน้าที่พาไป จนบริษัทดังกล่าวก็เลยยอมจ่ายค่ากักตัวให้ เมื่อกักตัวครบ 13 วันแล้ว เขาให้พักอีก 1 วัน ก่อนจะให้เรียนรู้งาน เมื่อเริ่มทำงานจึงรู้ว่าไม่ใช่งานแอดมินเหมือนที่คุยกันไว้ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกบังคับให้เข้าร่วมในขบวนการสแกมเมอร์ โดยให้เราสร้างตัวตนมาทั้งหมด 3 ตัวตน โดยใช้รูปของใครก็ได้แต่จะเน้นเป็นรูปชาวยุโรป เพราะกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นการชักชวนเหยื่อชาวยุโรปให้มาร่วมพูดคุย ก่อนจะชวนให้ร่วมลงทุน ซึ่งตอนแรกๆก็จะได้เงินคืนอยู่ แต่เมื่อหลงกลลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก เขาก็จะปิดช่องทางติดต่อหนีหายทันที พวกตนได้ไปเรียนรู้งานอยู่ที่บริษัทแรกประมาณ 15 วัน ก่อนจะถูกขายต่อมาอยู่บริษัทอีกแห่ง ซึ่งที่แห่งใหม่นี้งานจะคล้ายๆกัน แต่เขาจะมีตัวตนให้ เมื่อมีเหยื่อมาวีดีโอคอลพูดคุย เขาก็จะเอาโทรศัพท์ที่เราใช้สนทนาไปให้คนตามรูปคุยแทน

ส่วนความเป็นอยู่ก็ค่อนข้างลำบาก บริษัทแรกที่ไปอยู่ เขาให้พักในห้องรวม 10 คน มีห้องน้ำ 1 ห้อง ส่วนบริษัทที่ 2 เขาจะมีห้องแยก 2 คน และห้อง 4 คน ห้อง 2 คนจะมีทางเดินตรงกลางประมาณ 1 ฟุต ด้านข้างจะเป็นเตียง 2 ชั้น ส่วนห้อง 4 คน จะกว้างกว่าหน่อย มีเตียง 2 ชั้นด้านข้าง ส่วนอาหารการกิน ในบริษัทจะมีคนงานทั้งหมด 100 กว่าคน แต่อาหารมีจำกัด ใครที่กินไม่ทันก็คือต้องอดในมื้อนั้น ชีวิตต้องอยู่แค่ในห้องนอนกับที่ทำงานเท่านั้น เมื่อออกจากห้องนอนจะมียามประจำตามจุดต่างๆจำนวนมาก และด้านนอกจะล้อมรั้วด้วยสังกะสี ช่วงกลางคืนจะมีการปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงต่ำด้วย เคยมีคนงานลาวเคยไปแตะโดนก็เลยถูกไฟดูด พวกตนอยู่บริษัทแรกก็ไม่มีเงินเดือนให้ บริษัทที่ 2 ก็ผลัดการจ่ายเงินออกไป สรุปว่านอกว่าเงินค่าเดินทางและเงินค่ากักตัวก็ไม่ได้รับเงินค่าจ้างเลยแม้แต่บาทเดียว

 

พวกตนที่มารอบแรก 10 คน และมีมาสมทบจากนายหน้าเดียวกันอีก 5 คน รวมเป็น 15 คน แต่ทั้ง 5 คนที่มาทีหลังนั้น ได้พากันหลบหนีข้ามมาฝั่งไทยได้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ บริษัททั้งสองแห่งจะให้เซ็นต์สัญญาทำงาน ที่แรกจะให้เซ็นต์สัญญา 6 เดือน แต่บริษัทใหม่ให้เซ็นต์ 1 ปี โดยระบุว่าจะได้รับค่าแรงใน 2 เดือนแรก แต่เดือนต่อไปหากหาลูกค้าหรือเหยื่อไม่ได้ก็จะไม่ได้เงิน และอาจถูกขายต่อให้บริษัทอื่นอีกด้วย โดยหากจะกลับต้องจ่ายเงิน 78,000 บาท ตนเองได้ติดต่อพุดคุยกับน้าสาวที่อยู่ต่างประเทศและญาติฝั่งไทยเพื่อขอความช่วยเหลือ ก็ได้รวบรวมเงินกันมาได้จำนวน 40,000 บาท และมีนายหน้าที่อยู่กรุงเทพติดต่อให้ความช่วยเหลือพาข้ามกลับไทย นายหน้าฝั่งไทยช่วยจ่ายให้ 38,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 78,000 เงินดังกล่าวจะเป็นการจ่ายเพื่อขอบัตรประชาชนที่ถูกยึดไปคืนมาด้วย โดยบริษัทแห่งใหม่ที่ถูกขายมาทำงาน เขาจะยึดบัตรประชาชนของทุกคน อ้างว่าไปทำเอกสารเกี่ยวกับโควิด แต่จะยึดไว้เลย ต้องหาเงินไปไถ่คืน และจะมีค่าเรือข้ามฟากอีก 12,000 บาท ซึ่งตนต่อรองเหลือ 8,000 บาท แต่ในส่วนนี้ตนได้ขอให้นายหน้าเป็นคนจ่ายให้ มีคนพาขึ้นเรือข้ามฟากมาส่งฝั่งไทย บริเวณใกล้กับ รพ.สต.แม่เงิน อ.เชียงแสน เดินทางกลับมาถึงฝั่งไทยประมาณ 14.00 น. วันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาที่ไปอยู่ฝั่งนั้นเกือบ 2 เดือน แต่ยังมีเพื่อนที่ไปด้วยกันที่ยังตกค้างอยู่ฝั่งนั้นอีก 4 คน ยังคงรอความช่วยเหลือพากลับบ้านที่ฝั่งไทยอยู่ ตนและเพื่อนๆทั้งฝั่งไทยและเพื่อนที่ตกค้างอยู่ฝั่งลาวได้ช่วยกันประสานทุกช่องทางเพื่อจะได้กลับบ้านเร็วๆ

 

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่ทางฝั่งลาวคนหนึ่ง เผยว่า การช่วยเหลือคนงานที่หลงเชื่อไปทำงานโดยผิดกฏหมายในเขตคิงส์โรมัน ทางการลาวต้องประสานเจ้าหน้าที่อีกชุดเพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทางการลาวไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้เพราะอยู่คนละเขต ที่ผ่านใาเจ้าหน้าที่ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวได้เข้มงวดในการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนตลอด แต่ก็มักมีคนที่เล็ดลอดข้ามไปมาอยู่เป็นประจำ อยากฝากเตือนคนที่อยากไปทำงานควรเข้าออกให้ถูกกฏหมาย อย่าหลงเชื่อการเชิญชวนว่าจะให้เงินเท่านั้นเท่านี้ให้ เพราะส่วนใหญ่เป็นมิจฉาชีพ

กรณีดังกล่าว เป็นการหลอกลวงเพื่อไปทำงานที่เขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางประเทศจีนได้มาเช่าพื้นที่ในเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อสร้างเป็นบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ และวางแผนสร้างเป็นศูนย์รวมทางการค้าและการท่องเที่ยว มีเนื้อที่ 102 ตารางกิโลเมตร ระยะเวลาการเช่านานถึง 99 ปี ที่ผ่านมาคิงส์โรมันได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ลาว และจีน เพราะมีทำเลที่ตั้งอยู่บนเกาะดอนซาว พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ มีอาณาเขตติดต่อกับชายแดน 3 ประเทศ แต่จากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้คิงส์โรมันต้องปิดตัวไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง และเพิ่งจะ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปเสี่ยงโชคในช่วงประมาณปลายปีที่ผ่านมา และทำให้มีหลายบริษัทที่เริ่มมีการสมัครงานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวดังกล่าวและก็มีแก๊งค์มิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสในช่วงนี้หาคนเข้าไปทำงานด้วยเช่นกัน ทางการไทยและลาวได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของคนที่ถูกหลอกไปทำงานแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการประสานงานระหว่างประเทศ เพื่อนำตัวผู้ที่ยังตกค้างในฝั่ง สปป.ลาวให้เดินทางกลับไทยโดยเร็วที่สุด โดยนายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.เชียงราย จะได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อเข้าร่วมประชุมเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ในวันที่ 14 มี.ค. นี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น