กลุ่มเครือข่ายประชาชนฯ คัดค้านเขื่อนกั้นแม่น้ำยวม ให้สาละวิน ยวม เงา เมย ไหลอย่างอิสระ

วันนี้ 14 มีนาคม 2565 คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค กลุ่มชาติพันธุ์ก้าวไกล กลุ่มเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำสาละวิน ร่วมประชุม วันหยุดเขื่อนโลก(International Day of Action against Dams) “การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค” และขึ้นเรือล่องน้ำสาละวินสำรวจชายแดนไทย-พม่า บริเวณ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งในวันที่ 14 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันหยุดเขื่อนโลกซึ่งชาวบ้านลุ่มน้ำสาละวินร่วมจัดงานเชิงสัญญลักษณ์ “ไม่เอาเขื่อน” ปีนี้จัดกิจกรรมขึ้นที่บ้านแม่เงา ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อคัดค้านเขื่อนกั้นแม่น้ำยวมตามโครงการผันน้ำยวมไหลลงสู่เขื่อนภูมิพลของกรมชลประทาน และอยู่ในห้วงสถานการณ์โควิด จึงไม่สามารถดำเนินกิจกรรม และเพียงมาร่วมทำ และร่วมประชุมเฉพาะแกนนำ ในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

โดยนายปณชัย จันตา ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำสาละวิน ได้กล่าวว่า โครงการผันน้ำยวม ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านเพราะจะมีกองดินขนาดใหญ่ทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน ขณะที่โครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่พาดผ่านก็ทำให้ชาวบ้านสูญเสียที่ดินทำกิน นอกจากนี้ มีเรื่องความเชื่อทางจิตวิญญาณโดยชาวบ้านกะเหรี่ยงมีข้อห้ามเกี่ยวกับการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ เพราะแม่น้ำทั้งสองไม่ถูกกัน หากเอามารวมกันจะทำให้ผีน้ำโกรธและชาวบ้านจะมีปัญหาสุขภาพและเสียชีวิต ดังนั้นโครงการดังกล่าวฯจึงท้าทายความเชื่อดังกล่าว ชาวบ้านจึงไม่เห็นด้วย และบอกว่า หน่วยงานราชการต้องมาทำความเข้าใจกับชาวบ้านอย่างแท้จริงเพราะตอนนี้ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบข้อมูล หลายหมู่บ้าน ที่มีโครงการผ่าน ยังไม่ทราบเลยว่าจะโดนอะไรบ้าง ควรมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ไม่ใช่มาถ่ายภาพกันแชะๆ แล้วไปเขียนในอีไอเอว่าได้ไปสอบถามชาวบ้านมาแล้ว

ทั้งนี้สำหรับโครงการผันน้ำยวม กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งมีการร้องเรียนในประเด็นการขาดการมีส่วนร่วมและการใช้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงในการจัดทำ EIA อย่างไรก็ตามโครงการผันน้ำยวมสู่เขื่อนภูมิพล ทางกรมชลประทานได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยนเรศวร จัดทำโครงการเพิ่มอีก คือโครงการศึกษาสร้างการรับรู้ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ และ จ.ตาก

ปอ

ร่วมแสดงความคิดเห็น