ช่วงฤดูร้อนหลายพื้นที่มักได้รับผลกระทบจากภาวะขาดแคลนน้ำ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและสร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อเตรียมพร้อมรับมือและลดผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ดังนี้
ภาคประชาชน
- ใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่า โดยปิดก๊อกน้ำให้สนิททุกครั้ง ใช้ภาชนะรองน้ำ พร้อมนำน้ำที่เหลือไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น
- เตรียมภาชนะกักเก็บน้ำ โดยจัดหาและซ่อมแซมให้พร้อมสำหรับสำรองน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภค
- เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ โดยติดตั้งอุปกรณ์เติมอากาศที่ก๊อกน้ำ ฝักบัว หรือชักโครก เพื่อเพิ่มแรงดันน้ำและ
ลดปริมาณการใช้น้ำ - หมั่นตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำ โดยปิดก๊อกน้ำให้สนิททุกตัว จดเลขมาตรวัดน้ำไว้ หากตัวเลขมีการเปลี่ยนแปลงแสดงว่ามีน้ำรั่วซึม ให้รีบดำเนินการซ่อมแซม
ภาคการเกษตร - การจัดการดิน รักษาความชื้นในดิน โดยการไถพรวนดินอยู่เสมอ ไม่เผาตอซัง โดยใช้วิธีไถกลบแทน นำวัสดุมาคลุมหน้าดิน อาทิ ฟางข้าว แกลบ ขี้เลื่อย หรือพลาสติก
- การจัดการน้ำ ติดตามสถานการณ์น้ำและแผนการจัดสรรน้ำในพื้นที่ วางแผนการใช้น้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน
ในพื้นที่ สร้างระบบกักเก็บน้ำในพื้นที่ อาทิ ขุดร่องน้ำ หรือใช้ระบบน้ำบาดาล ทำการเกษตรแบบใช้น้ำน้อย อาทิ นำพลาสติกคลุมดินใช้ระบบน้ำหยดในพื้นที่เพาะปลูก
- การจัดการพืชและการเกษตร ปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย อาทิ ถั่วลิสง ข้าวโพด งดทำนาปรังช่วงฤดูแล้ง เพื่อป้องกันนาข้าวเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ
ภาคอุตสาหกรรม - จัดหาแหล่งน้ำสำรองและกักเก็บน้ำไว้ใช้ พร้อมวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำในพื้นที่
- ตรวจสอบระบบการจัดสรรน้ำให้พร้อมใช้งาน ทั้งท่อส่งน้ำ ระบบการกระจายน้ำ และระบบบำบัดน้ำเสีย
- เลือกใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีประหยัดน้ำ เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำ และนำน้ำมาหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่
ทั้งนี้ การใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลัก 3R คือ Reduce ลดการใช้น้ำ Reuse ใช้น้ำซ้ำ และ Recycle นำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ จะช่วยลดผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง
ร่วมแสดงความคิดเห็น