“วราวุธ” นั่งเฮลิคอปเตอร์ ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง จ.แม่ฮ่องสอนเข้ม

“วราวุธ”นั่งเฮลิคอปเตอร์ ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง จ.แม่ฮ่องสอน อย่างเข้มข้นหลังพบ ‘จุดความร้อน’ สะสมมากสุดในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

บ่ายวันนี้ (19 มีนาคม 2565) เวลา 13.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) และคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของ จ.แม่ฮ่องสอน และการดำเนินงานของอุทยานแห่งชาติสาละวิน โดยมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติสาละวิน พร้อมเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและรับมอบนโยบายการดำเนินงาน โดยในโอกาสนี้ รมว.ทส. ได้มอบเสบียงอาหาร ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมพบปะพูดคุยกับกลุ่มเครือข่ายชุมชน ตลอดจนร่วมกิจกรรม ชิงเก็บ ลดเผา ณ อุทยานแห่งชาติสาละวิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ภาคเหนือ ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 โดยเฉพาะ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งข้อมูลจากดาวเทียม ซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) พบว่า จ.แม่ฮ่องสอน ยังคงเป็นจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดทางภาคเหนือ ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้บดบังทัศนวิสัยในพื้นที่ อีกทั้งเริ่มส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก ขณะที่ศูนย์แบบจำลองคุณภาพอากาศ และภูมิศาสตร์สารสนเทศกรมควบคุมมลพิษ ได้มีการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง ล่วงหน้าระบุว่า ในช่วงวันที่ 20-22 มีนาคม 2565 สถานการณ์ฝุ่นละอองจะอยู่ในขั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

รมว.ทส. จึงได้กำชับให้ยกระดับการทำงานเฝ้าระวัง ป้องกัน แก้ไข และควบคุมไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในทุกมิติ อย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ สนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับจังหวัดอย่างเต็มที่ ให้ศูนย์ปฏิบัติการ ทส. (ส่วนหน้า) กำกับการวางกลยุทธ์ป้องกัน ควบคุม และดับไฟป่า การเคลื่อนย้ายสรรพกำลัง การประสานงานสนธิกำลังกับหน่วยงานท้องถิ่นและท้องที่อย่างใกล้ชิด และดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงานอย่างสูงสุด รวมถึงการเตรียมพร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือทุกประเภท ให้อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา ตลอดจนระดมเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ในสังกัดกระทรวงฯ สนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในทุกระดับ

นอกจากนี้ ยังให้รณรงค์สร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มคนจุดไฟเผาป่า ที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสร้างความเข้าใจ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งประชาชน และภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว โดยไม่ขัดต่อข้อกฎหมายและระเบียบปฏิบัติ พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับกลุ่มผู้กระทำผิดที่ฝ่าฝืนเผาป่าในช่วงห้ามเผา ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดย จ.แม่ฮ่องสอน ได้มีการออกประกาศ ห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิงมาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.- 30 เม.ย. 2565 รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือด้วย

รมว.ทส. ยังให้ขยายการดำเนินงานโครงการ “ชิงเก็บ ลดเผา” ครอบคลุมพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตร ตลอดจนเร่งดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างบริษัท SCG กับ ทส. เพื่อการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร มีความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ จูงใจพี่น้องประชาชนในการให้ความร่วมมือเก็บเชื้อเพลิงไปใช้ประโยชน์ ตลอดจนใช้บทเรียนที่ได้จากการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นองค์ความรู้ในการกำหนดแผนงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง เพื่อให้เกิดผลสำเร็จ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาหมอกควันให้ได้อย่างยั่งยืน

โดยวันนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีค่าคุณภาพอากาศ ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เท่ากับ 110 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินเกณฑ์มาตรฐานมาแล้ว 21 วัน ขณะที่ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง มีค่า PM2.5 เท่ากับ 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกืดเกณฑ์มาตรฐานมาแล้ว 8 วัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น