ข่าวปลอม! กฟน. โทรแจ้งยอดค่าไฟค้างชำระ และสามารถจ่ายแบบด่วนผ่านคอลเซ็นเตอร์ได้

วันที่ 20 มี.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง กฟน. โทรแจ้งยอดค่าไฟค้างชำระ และสามารถจ่ายแบบด่วนผ่านคอลเซ็นเตอร์ได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับการไฟฟ้านครหลวง กระทรวงมหาดไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลว่า วันนี้มีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้านครหลวงโทรมาบอกว่ามีค่าไฟค้างชำระและจะตัดไฟทันที ซึ่งเขาได้ให้จ่ายผ่านทางคอลเซ็นเตอร์แบบด่วน ๆ ทางการไฟฟ้านครหลวง กระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ปัจจุบันไม่มีนโยบายเรียกเก็บค่าไฟฟ้าผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ของ MEA แต่อย่างใด และไม่มีนโยบายให้พนักงานเรียกเก็บค่าไฟตามบ้าน ซึ่งการจ่ายค่าไฟสามารถจ่ายในรูปแบบออนไลน์ หรือทางเคาน์เตอร์บริการใกล้บ้านท่าน โดยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ฉับไว จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กำลังระบาดดังกล่าว

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และหากผู้ใช้ไฟฟ้าพบกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างหลอกลวงทำให้เสียทรัพย์ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลจากการไฟฟ้านครหลวง กระทรวงมหาดไทย ผ่านทางเว็บไซต์ www.mea.or.th หรือโทร Call Center 1130

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ปัจจุบันยังไม่มีนโยบายเรียกเก็บค่าไฟฟ้าผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ของ MEA แต่อย่างใด และไม่มีนโยบายให้พนักงานเรียกเก็บค่าไฟตามบ้าน

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น