เปลี่ยน “ม่อนแจ่ม” เป็นศูนย์เรียนรู้ป่าในระบบวนเกษตร

คณะทำงานแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์พื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยและบริเวณโดยรอบ (ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง) แจ้งมติที่ประชุมล่าสุดว่าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ได้กำหนดชื่อสถานที่ใหม่จากเดิมชื่อ “ม่อนแจ่ม” กำหนดชื่อใหม่เป็น “ศูนย์เรียนรู้ป่าในระบบวนเกษตร” และทางจังหวัดได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบข้อมูลการดำเนินการต่างๆของผู้ประกอบการในพื้นที่โครงการหลวงหนองหอยและบริเวณโดยรอบให้เป็นไปตามกฎหมาย

“เพื่อป้องกันมิให้เป็นการส่งเสริม สนับสนุนการกระทำผิดของผู้ประกอบการในพื้นที่ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การอนุมัติ อนุญาตให้ดำเนินการใดๆตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์ข้อมูลเพื่อการท่องเที่ยวผ่านสื่อของหน่วยงานรัฐและควรสนับสนุนผู้ประกอบการที่ดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น” ทั้งนี้ที่ผ่านๆ มากองอำนวยการส่วนหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม (ม่อนแจ่ม และพื้นที่ใกล้เคียง ) อ.แม่ริม เชียงใหม่ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ ออกตรวจ ติดตาม เฝ้าระวังไม่ให้มีการบุกรุกป่าเพิ่ม และลาดตระเวณเพื่อยุติการดำเนินการก่อสร้าง สิ่งปลูกสร้างในลักษณะบ้านพักตากอากาศ และรีสอร์ท อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด

และทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ ได้มอบหมาย ให้ ผอ.ศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ ร่วมปฏิบัติการขับเคลื่อนการแก้ปัญหา ในพื้นที่และมีการดำเนินคดีนายทุนที่บุกรุกป่าสร้างรีสอร์ทในพื้นที่ต้นน้ำชั้น 1 ขณะนี้อัยการสูงสุดได้มีความเห็นสั่งฟ้องคดีแล้ว 19 คดี อีกทั้งฝ่ายปกครอง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ได้แจ้งความดำเนินคดีตามพรบ. โรงแรม กับสถานประกอบการ (รีสอร์ท ที่พัก) ที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ยังคงพบมีการฝ่าฝืนเปิดให้บริการในขณะนี้เป็นจำนวนมาก

ดังนั้นแนวทางทีมีการประชุมหารือกัน ของการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการหลวงไม่ว่าจะเป็นหนองหอย,ทุ่งเรา,ม่อนเงาะ และโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล (คทช.) นอกเหนือจากกรณีการใช้ประโยชน์พื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ที่ต้องสร้างการรับรู้สร้างความเข้าใจทุกฝ่ายให้เข้าใจตรงกัน หากละเมิดกฎหมาย จนเป็นคดีความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วก็ต้องมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลาดตระเวนตรวจป้องปราม ไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายตามภารกิจของหน่วยงาน สร้างการรับรู้ การประชาสัมพันธ์ ภารกิจงานของรัฐ เป็นรายครัวเรือน ทุกหน่วยงาน หาข่าว รายงานความเคลื่อนไหวและสร้างแนวร่วมแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภารกิจนี้เป็นการปฏิบัติการร่วมที่ทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันเพื้อแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ บานปลาย กลายเป็นปมปัญหาที่มีผลกระทบด้านมวลชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ และกรณีการใช้ประโยชน์ในที่โครงการหลวงนั้น ที่ประชุมเสนอว่า กรณีบ้าน 3 หลัง ให้บูรณษการโดยการร่วมตรวจสอบสถานประกอบการ เก็บข้อมูลโดยละเอียด กำหนดช่วงเวลา ดเนินการแต่ละคดี กรณีบางสถานประกอบการติดป้ายบุคลภายนอกห้ามเข้า ให้ประสานท้องที่ ท้องถิ่น ดำเนินการตรวจสอบตามเหมาะสม เร่งรัดการปฏิบัติการตามแผนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ครบถ้วนทุกมิติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่มีการหารือ สรุปในที่ประชุมต่อไป

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น