นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนสั่งผู้ใหญ่บ้านตามแนวชายแดน ติดกับเมียนมา ให้ทุกหมู่บ้านจัดชุดลาดตระเวนป้องกันเหตุ การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง หลังมีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมา กับทหารกะเหรี่ยงคาเรนนี บ่อยครั้ง
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 นายพงษ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ผู้ใหญ่บ้านดอยแสง , บ้านไม้สะเป่ ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ให้จัดชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังคนแปลกหน้าจากประเทศเมียนมาเข้ามาในหมู่บ้าน หากพบให้แจ้งแก่ฝ่ายปกครอง และหน่วยทหารที่อยู่ใกล้เคียงทันที ทั้งนี้เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา ผญบ.ดอยแสง ต.ปางหมู ฯ ได้รายงานสถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคาเรนนี ( Karenni Army ; KA ) ใกล้แนวชายแดน โดยมีเสียงระเบิดนับ 10 ลูกดังต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 09.30 – 10.00 น.
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูง ของ กองกำลังติดอาวุธ KA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2565 ทหารของ กองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี /KA ได้ปะทะกับทหารเมียนมา สังกัดกองพันทหารราบที่ 134 บริเวณใกล้กับฐาน ดอยไม้ตึงพิกัด LB.716364 ซึ่งเป็นฐานจุดตรวจของฐานฯดอตะแค พิกัด LB.716366 ผลการปะทะ ทหารเมียนมา พัน.ร.134 ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 นาย โดยมี นายทหารยศ ร.อ.ได้รับบาดเจ็บ ขาซ้ายขาด เนื่องจากถูกพลซุ่มยิงของ กกล.KA ยิงใส่ระหว่างการปะทะของทั้งสองฝ่ายทาง ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2565 ทราบมาว่า ทหารเมียนมา จะจัดส่งเฮลิคอปตอร์มารับทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบที่ฐานฯดอยไม้ตึง ทางทหารเมียนมา ฐาน ฯ ดอตะแค พิกัด LB.716366 จึงได้มีการยิง ค.ขนาด 81 มม.เคลียร์พื้นที่โดยรอบ เพื่อป้องกันการซุ่มโจมตีจาก กองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี / KA จำนวน 10 นัด ส่งผลให้ราษฎรไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงระเบิดดังอย่างชัดเจน
แหล่งข่าวกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี เปิดเผยต่อไปว่า ปัจจุบันในเมืองลอยก่อว์ , เมืองดีมอร์โซว์ , เมืองชาดอว์ และ เมืองฟลูโซว์ มีการสู้รบระหว่างทหารกะเหรี่ยงคาเรนนี / KA ที่สนธิกำลังกับ กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม PDF กับทหารเมียนมาอย่างหนัก ซึ่งการสู้รบดังกล่าว ได้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2565 เป็นต้นมา โดยการสู้รบได้เกิดขึ้นในตัวเมืองและบริเวณชานเมือง ซึ่งทางการเมียนมา ได้มีการใช้อากาศยานและอาวุธจรวดหลายลำกล้อง โจมตีฝ่าย กองกำลัง KA และ PDF อย่างหนัก ส่งผลให้มีราษฎรชาวกะเหรี่ยงคาเรนนี ต้องหลบหนีภัยสงครามจากบ้านเรือนไปอาศัยอยู่ในป่า ไม่ต่ำกว่า 100,000 คนแล้ว
ร่วมแสดงความคิดเห็น