หอการค้าฯ ประชุมใหญ่ เร่งเดินเครื่องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมเตรียมปรับโลโก้ให้สอดคล้องกับความทันสมัย

เมื่อเร็วๆ นี้ นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และสมาชิกหอการค้า ฯร่วมกัน การประชุมใหญ่สามัญสมาชิกหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2565 และร่วมเป็นเกียรติพิธีวุฒิบัตรผู้เข้ารีบการอบรมนักธุรกิจรุ่นใหม่ : YEC รุ่นที่ 9 ณ ห้องลานนาบอลรูม 2 และ 3 โรงแรมแชงกรี-ล่า เชียงใหม่

นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การประชุมใหญ่สามัญสมาชิกหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ ประเด็นเรื่องการปรับปรุงโลโก้นั้น เป็นการปรับเพื่อให้เข้ากับยุคปัจจุบันและทันสมัย พร้อมปรับระเบียบข้อบังคับ ให้ทันสมัยและกระชับมากขึ้น ในหลากหลายหัวข้อที่มีการปรับปรุงไปนั้น เป็นการเพิ่มเติมข้อมูลเนื้อหาให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ด้านแนวโน้มทางเศรษฐกิจถือว่าเป็นข่าวดีที่ภาครัฐบาล มีการปลดล๊อคการควบคุมโรคระบาดหรือโควิด-19 มากยิ่งขึ้น หากเร็วๆ นี้ มีการปรับให้ โควิด-19 เป็นเพียงโรคประจำถิ่น และมีการปลดล็อคมากขึ้น จะทำให้ภาคเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้มากขึ้น ซึ่งตรงนี้มองว่ายังคงต้องใช้เวลา ในการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประกอบกับประเทศเพื่อนบ้าน และโลก มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ อย่างเช่นค่าครองชีพมีการปรับขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้จากสงครามรัสเซียกับยูเครนถือว่ากระทบกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และต้นทุนสินค้าบางอย่างมีราคาแพงขึ้น ทำให้ธุรกิจต้องมีการปรับตัว พร้อมทั้งผลักดันกลุ่มธุรกิจดิจิตอลฯ หากผลักดันให้เป็นนโยบายของจังหวัด และได้รับการส่งเสริมจาก BOI ในเรื่องของภาษีให้กับกลุ่มธุรกิจดิจิตอลในพื้นได้นั้น เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงิน และเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาวได้

ทั้งนี้ แนวนโยบายในการช่วยเหลือสมาชิก มีการปรับเปลี่ยนช่วยเหลือสมาชิกหอการค้า จัดอบรมสมาชิกผ่านเน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนจากคณะกรรมการรุ่นใหม่ ส่งเสริมสมาชิกในเรื่องของ งบการเงิน การนำดิจิตอลต่างๆเข้าไปใช้ในธุรกิจ, ส่งเสริมในเรื่องของการตลาด การใช้เทคโนโลยีเข้าไปขับเคลื่อนในการทำงานให้มากที่สุด ซึ่งระบบเหล่านี้เป็นแค่ในช่วง โควิด-19 หากผ่านพ้นไปได้เราคงมีงบจากส่วนของราชการ ในการส่งเสริมภาคเอกชนท้องถิ่น ให้มีการขับเคลื่อนธุรกิจ ในเรื่องของการส่งเสริมองค์ความรู้ การนำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ใหม่ออกมาใช้ผ่านงบประมาณของภาครัฐในการสนับสนุน

นอกจากนี้ ในช่วงสองปีของภาวะ โควิด-19 ธุรกิจที่กระทบค่อนข้างเยอะที่สุดคือภาคการท่องเที่ยว แทบจะไม่มีลูกค้าเป็นระยะเวลาสองปี และก็มีหลายธุรกิจที่ต้องปิดตัวไป และธุรกิจท่องเที่ยวก็ต้องมีการปรับตัวไปทำธุรกิจในทิศทางใหม่ มองว่าหากภาคธุรกิจ ท่องเที่ยวจะมีลูกค้ากลับมาอีกครั้งแต่คาดว่าแนวโน้มคงจะไม่เหมือนเดิม ลูกค้านักท่องเที่ยวจีนเองก็ยังคงไม่ได้มาประเทศไทยในจำนวนมาก ซึ่งประเทศจีนเองต้องการทำให้โรคระบาด โควิด-19กลายเป็นศูนย์ มองว่านโยบายของประเทศจีนนั้น เน้นการสนับสนุนประชาชนให้เที่ยวในประเทศมากกว่าที่จะเดินทางออกมาจับจ่ายนอกประเทศ ฉะนั้นสิ่งที่หอการค้าต้องการขับเคลื่อนในอนาคต ด้านภาคการท่องเที่ยวคือลองเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งมองว่ากลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มี และมองว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทำรายได้ให้กับจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น