พ่อชาวแม่สายร้องทุกข์! ลูกสาว 10 ขวบถูกดาบตำรวจกระทำชำเรา ผ่านไป 2 ปีคดีไม่คืบ

วันที่ 29 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีชายคนหนึ่งในพื้นที่ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ร้องเรียนให้ผู้สื่อข่าวช่วยเหลือ

นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม อายุ 35 ปี หรือทนายหญิง พร้อมด้วยนายพลากร วงค์ประเสริฐ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งได้ลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยทนายหญิงได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางเราได้รับการร้องเรียนมาจากพ่อของน้องผู้หญิงอายุ 10 ขวบ ที่ถูกกระทำอนาจาร ซึ่งเป็นคดีที่ถูกแจ้งความไว้นานเกือบ 2 ปี ซึ่งทางพ่อเด็กคิดว่ากระบวนการพิจารณาคดีล่าช้า และเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องเรียนเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งตนและทีมงานจะเข้าไปติดตามความคืบหน้าและช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถต่อไป

นายใหญ่ (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนอาศัยอยู่กับลูกสาว 2 คน ตอนนั้นลูกสาวอายุได้ 10 ขวบ เมื่อช่วงประมาณต้นเดือน ต.ค. 63 ตนได้รับโทรศพท์จากน้องสาวของแม่เด็กมาเล่าว่า ลูกสาวได้โทรไปหาแม่ที่อยู่โคราช บอกว่าถูกตำรวจยศดาบตำรวจ ในพื้นที่ อ.แม่สาย ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ได้เข้ามาใช้กำลังปลุกปล้ำกระทำชำเราหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค., เม.ย., ก.ย. และล่าสุดคือเดือน ต.ค. (4 ต.ค. 63) ซึ่งในวันดังกล่าวตนออกไปเอาแกลบที่โรงสีบ้านโป่ง ห่างจากบ้านประมาณ 3 กม. ออกจากบ้านประมาณ 1 ชั่วโมง

หลังทราบข่าววันรุ่งขึ้น (5 ต.ค. 63) ตนจึงพาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.แม่สาย ผลปรากฏว่าถูกกระทำอนาจารจริง จึงตัดสินใจไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ในวันที่ 6 ต.ค. 63 แต่เมื่อไปถึง ทางนั้นแนะว่าให้กลับมาแจ้งความไว้ สภ.แม่สาย เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ตนจึงกลับมาแจ้งความที่ สภ.แม่สาย ในวันที่ 7 ต.ค. 63 แต่ตอนนี้ล่วงเลยมาเกือบ 2 ปี แต่คดีกลับไม่คืบหน้าเท่าที่ควร แถมคู่กรณีซึ่งอยู่บ้านตรงข้ามกันยังกลับมารับราชการตำรวจเหมือนเดิม และยังเข้ามาข่มขู่ทั้งด้วยวาจาและท่าทางบ่อยๆ บางครั้งก็แกล้งมาขึ้นลำกล้องปืนใกล้บ้านให้ได้ยินบ้าง ขับรถผ่านก็ตะโกนด่าบ้าง จนทุกวันนี้ตนไม่ค่อยจะกล้าอยู่บ้าน เพราะหวั่นว่าจะไม่ปลอดภัย ส่วนลูกสาวตอนนี้อยู่ในความคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ตนมีโอกาสได้พูดคุยกับลูกสาว ลูกก็ถามตลอดว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ อยากกลับบ้าน ตนก็คิดถึงลูกมาก ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพิงใคร เพราะตนก็ไม่รู้หนังสือ อยากให้มีหน่วยงานมาดูแลให้ความเป็นธรรมต่อครอบครัวของตนเอง

หลังจากนี้ ทางทีมกฏหมายของทนายหญิงจะให้เจ้าทุกข์แต่งตั้งเป็นทนายเพื่อจะไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาคดี โดยเบื้องต้นจะได้ตรวจสอบว่าคดีอยู่ในมือของอัยการไหน และจะได้ประสานงานในการส่งฟ้องดำเนินคดีกับตำรวจรายดังกล่าว ในส่วนการดำเนินการด้านวินัย ทางทีมทนายจะเข้าไปขอดำเนินการตรวจสอบขั้นตอนการพิจารณาโทษทางวินัยของหน่วยงานต้นสังกัดว่าได้ดำเนินการถูกต้องหรือไม่ และอาจรวมไปถึงการร้องเรียนไปถึงผู้บังคับบัญชาในระดับสูงขึ้นไปทั้ง ภาค 5 หรือ ผบ.ตร. อีกด้วย

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น