สับปะรดโรงงาน ปีนี้เพียบ ผลผลิตเกือบ 8 หมื่นตัน ร่วมอุดหนุนผลผลิตถิ่นเหนือ

นายธวัชชัย เดชาเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 เชียงใหม่ (สศท.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยสถานการณ์การผลิตสับปะรดโรงงาน ปี 2565 ในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง เชียงราย พะเยา และลำปาง ทั้ง 3 จังหวัด มีพื้นที่ปลูกร้อยละ 35 ของเนื้อที่ปลูกภาคเหนือ มีเกษตรกรผู้ปลูกรวม 3,159 ครัวเรือน โดยปีนี้(ข้อมูลกพ. 2565) คาดว่ามีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 3 จังหวัด รวม 32,423 ไร่ ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีเนื้อที่เพาะปลูก 34,475 ไร่ (ลดลงร้อยละ 6) เนื่องจากเกษตรกรบางส่วนปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นเช่น สับปะรดพันธุ์บริโภคสด มัน
สำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ผลผลิต คาดว่าจะมีปริมาณรวม 76,315 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มี 78,872 ตัน (ลดลงร้อยละ 3) เนื่องจากเนื้อที่ปลูกลดลง ประกอบกับปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้นทำให้เกษตรกรลดการใส่ปุ๋ยบังคับออกดอก ผลผลิตของสับปะรดจึงลดลง ส่วนใหญ่ปลูกพันธุ์ปัตตาเวีย ซึ่งเป็นพันธุ์ที่โรงงานอุตสาหกรรมต้องการเพื่อนำไปแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง สับปะรดสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ส่วนมากเกษตรกรจะเริ่มทยอยปลูกใน เดือน ม.ค.-พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มี ฝนตกชุก ไม่มีปัญหาเรื่องโรครากเน่ายอดเน่า ระยะเวลาเพาะปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 15-18 เดือน สับปะรดให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี โดยผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ ม.ค.ของทุกปี และจะออกมากสุดช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม (ร้อยละ 60 ของผลผลิตทั้งหมด)

ด้านราคาที่เกษตรกรขายได้ ช่วงสัปดาห์แรกของเดือน มี.ค.นั้น อยู่ที่ 6 บาท/กิโลกรัม ในส่วนของการจำหน่ายผลผลิต เกษตรกรส่งจำหน่ายให้กับผู้รวบรวมในพื้นที่ และพ่อค้ารายใหญ่ที่มารับซื้อภายในจังหวัดเพื่อรวบรวมส่งไปยังโรงงานแปรรูป จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี และชลบุรี เก็บไว้จำหน่ายสำหรับบริโภคผลสด ร้อยละ 34 ของผลผลิตทั้งหมด

ทั้งนี้ สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกมากที่สุด มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคสดด้วย ซึ่งมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว หากเก็บเอาไว้สักระยะ ก็จะมีรสชาติหวานเพิ่มขึ้น ด้านแนวทางบริหารจัดการสับปะรดโรงงานในพื้นที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งเสริมพื้นที่เหมาะสมในการปลูก จัดหาแหล่งน้ำหรือจัดระบบชลประทาน ลดต้นทุนการผลิตสนับสนุนและหาแหล่งเงินทุนให้กับเกษตรกร รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยี การผลิตให้กับเกษตรกรเพื่อเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงคุณภาพผลผลิตในด้านการแปรรูป ได้ส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสับปะรด เช่น นวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ความงามจากสับปะรดในจังหวัดลำปาง โครงการเพิ่มมูลค่าเศษวัสดุจากสับปะรดที่เหลือใช้ด้วยการผลิตเป็นเส้นใยเสริมแรงสำหรับวัสดุคอมโพสิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และด้านการตลาด ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าบนสื่อออนไลน์ ตลาดดอทคอม การรวบรวม จำหน่าย และส่งออกสับปะรดผลสดผ่านกลไกรูปแบบประชารัฐ ขยายตลาดส่งออกสับปะรดและผลิตภัณฑ์เพื่อกระจายผลผลิตไปยังตลาดต่างๆ ตามความเหมะสมแต่ละพื้นที่

“ช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม จะมีผลผลิตสับปะรดโรงงานในภาคเหนือออกมาจำนวนมากจึงขอเชิญชวนหันมาอุดหนุน และบริโภคสับปะรดที่ผลิตโดยเกษตรกรไทยให้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการอุดหนุน ส่งเสริมผลผลิต ช่วยกระจายผลผลิตให้แก่เกษตรกรแล้ว สรรพคุณของสับปะรดยังส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมากอีกด้วย”

ร่วมแสดงความคิดเห็น