บวงสรวงเจ้าแม่ตะเคียนเงินตะเคียนทอง สร้างศูนย์การเรียนรู้

ชาว ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ทำพิธีบวงสรวงเจ้าแม่ตะเคียนเงินและตะเคียนทองเพื่อให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในอดีตเกิดขึ้น เมื่อสายวันที่ 31 มีนาคม 2565 เวลา09.59น. ณ บริเวณโคกหนองนาโมเดล ของนางกัญญาภัค ออมแก้ว อายุ 68 ปี บ้านดอนชัย หมู่ที่ 1 ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ที่ได้เข้าร่วมโครงการของรัฐบาลตามโครงการโคกหนองนาโมเดล

นางกัญญภัค ออมแก้ว หรือ แม่สาย เจ้าของโตกหนองนา ได้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้รับเป็นวันที่มีนิมิตที่ดีที่ได้ตั้งใจก่อสร้างศาลาหลังใหญ่ไว้ตรงจุดที่มีจุดปล่อยบั้งไฟขึ้นในสมัยก่อนที่ได้เป็นหมู่บ้านปงสนุก ตำบลปง อำเภอปง จังหวัดน่าน และในสมัยปีพุทธศักราช 2482 ได้เกิดน้ำบ่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านในสมัยนั้นตั้งแต่ยามค่อนคืนจนบ้านเรือนวัดวาในสมัยนั้นได้ถูกลำน้ำแม่สะกึ๋นพัดพาเสียหายและมีผู้คนที่หลับนอนไม่รู้เรื่องถูกน้ำพัดพาเสียชีวิตจำนวน10กว่าชีวิตและสูญหายไปกับสายน้ำก็หลายรายจนเป็นโศกวินาศกรรมครั้งใหญ่ในสมัยก่อน

จนทำให้ผู้คนต้องระหกระเหินแยกย้ายถิ่นฐานไปสร้างที่อยู่อาศัยแห่งใหม่หลายๆกลุ่มจนสร้างความลำบากยากเข็ญให้กับผู้คนประชาชนทุกข์ยากเข็ญไปทั่วและที้งร้างให้เป็นที่ป่าที่นาจนในที่สุดก็มีผู้คนมาจับจองในที่แห่งนี้จัดเป็นที่นาทำกินกันสืบทอกจนถึงปัจจุบัน

นางกัญญภัค เล่าอีกว่า ในส่วนที่ไปที่มาของการค้นพบต้นตะเคียนต้นนี้เนื่องจากนายนิรนดร์ ออมแก้วและตนเองได้ก่อสร้างที่พัก ในบริเวณด้านหน้าติดกับถนนทางหลวงหมายเลข 1120 และได้มีผู้คนที่มีที่นาแถวๆนั้นได้มาเสนอขายให้จึงได้รับซื้อไว้เพื่อจะประกอบการทำนาทำสวนเกษตรอินทรีย์ และเข้าร่วมโครงการโคกหนองนาโมเดลตั้งแต่เดือน ตุลาคม พ.ศ.2564 หลังจากได้รับซื้อนาแปลงนี้ไว้

ประกอบกับทางรัฐบาลโดยพัฒนาชุมชนอำเภอสองได้นำเสนอให้เข้าร่วมโครงการโคกหนองนาโมเดลและมีโอกาสจ้างรถแบ็คโฮมาขุดสระหนองน้ำในบริเวณนาแห่งนี้โดยสามียังจำคำบอกเล่าของน้องใต้ที่ดินตรงบริเวณที่ตรงนี้มีต้นตะเคียนอยู่หลังจากรถแบ็คโฮได้พักเที่ยงจึงให้รถขุดค้นหาจนลึกก็ไม่พบ จนในที่สุดทั้งสองคนก็ได้จุดธูปขอให้พบ หลังจากบอกกล่าวเสร็จก็ขอให้รถแบ็คโคขุดต่อจึงพบต้นตะเคียนต้นใหญ่ตามความฝันและได้ขุดเจออีกต้นในบริเวณเดียวกัน

จากลักษณะที่พบต้นตะเคียนที่พบน่าจะเป็นต้นตะเคียนต้นเดียวกัน แต่แยกออกเป็น 2 ท่อน ท่อนแรก อยู่ด้านบน เรียกตะเคียนเงิน และท่อนที่ 2 อยู่ด้านล่าง เรียกตะเคียนทอง เหมือนกับนอนคู่ด้วยกัน ความยาวประมาณท่อน 7 เมตร ยาวทั้งหมดถ้ารวมกัน 14 เมตร ทางตนเองพร้อมด้วยครอบครัวและพี่น้องชาวตำบลสะเอียบจึงได้ก่อสร้างศาลาหลังใหญ่ให้เป็นที่จัดเก็บเพื่อเป็นสิ่งสิริมงคลและเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านที่จะได้ศึกษารากเหง้าของหมู่บ้านและความเป็นมาของต้นตะเคียน

นางกัญญาภัค เล่าในตอนท้ายว่า ต้นตะเคียนต้นนี้ที่ได้ถูกทับถมและโค่นล้มไว้ในที่นาแห่งนี้คาดว่าในปี พ.ศ.2482 คงจะเป็นปีที่โค่นล้ม อายุที่ถูกทับถมประมาณ 84 ปี ถึง 85 ปี บวกอายุที่ยืนต้น ประมาณ 150 ปี จนในวันนี้จึงถือเป็นวันดีที่ตนเองและสามี และญาติๆจึงได้ร่วมใจทำพิธีบวงสรวงถวายเครื่องสักการะและได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำบุญทักษินานุปทานกรวดน้ำบุญกุศลให้กับเจ้าแม่ตะเคียนเงินเจ้าแม่ตะเคียนทอง