สธ. เซ็นซื้อยาแพกซ์โลวิด 5 หมื่นคอร์ส

ข่าวจริง!!!สธ. เซ็นซื้อยาแพกซ์โลวิด จำนวน 5 หมื่นคอร์ส รับมือโควิด 19 ช่วงสงกรานต์

วันที่ 2 เม.ย. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวจริง เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง สธ. เซ็นซื้อยาแพกซ์โลวิด จำนวน 5 หมื่นคอร์ส รับมือโควิด 19 ช่วงสงกรานต์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามในสัญญาการจัดซื้อยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทย ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ด สำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรง สามารถลดความเสี่ยงการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิตของผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยงลงได้ถึงร้อยละ 88 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นวงกว้าง และมีผู้ป่วยส่วนหนึ่งเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การพัฒนาวิธีการรักษารวมถึงการจัดหายารักษาโควิด 19 จึงมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีนโยบายการจัดหายารักษาโควิด 19 ที่สำคัญ คือ การเข้าถึงยาที่มีประสิทธิผลในการรักษา โดยมีข้อมูลทางวิชาการหรือผลการศึกษาวิจัยที่มีคุณภาพเพียงพอในการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพื่อพิจารณาเลือกและจัดหายาที่เหมาะสมในการนำมาใช้ในกับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ยาต้านไวรัสเพื่อให้การรักษาผู้ป่วย COVID-19 ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) และยาใหม่ที่อยู่ระหว่างการจัดหาและมีการลงนามจัดซื้อกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันนี้ คือ ยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) จากข้อมูลจากการศึกษาวิจัย 1,379 คน สามารถลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลงได้ ร้อยละ 88 เมื่อผู้ป่วยได้รับยาภายใน 5 วันนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ กลุ่มที่ให้ยา Paxlovid นอนโรงพยาบาล ร้อยละ 0.77 และไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มยาหลอกมีผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต ร้อยละ 6.31 โดยมีผู้เสียชีวิตในกลุ่มที่ได้ยาหลอก 13 คน
อย่างไรก็ตาม ยา Paxlovid เหมาะสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางและมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง เช่น คนอายุมากกว่า 60 ปี มีภาวะอ้วน เป็นเบาหวาน เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคไตเรื้อรัง ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ เป็นต้น สำหรับยาแพ็กซ์โลวิด มีประสิทธิผลในการลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์รับผิดชอบสัญญาการจัดหาและจัดซื้อยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) จำนวน 50,000 คอร์สการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด 19 ได้เข้าถึงยาต้านไวรัสชนิดใหม่ และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือการรักษาตัวในโรงพยาบาล

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.dms.go.th/ หรือโทร. 0-2590-6000

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : สธ. เซ็นซื้อยาแพกซ์โลวิด จำนวน 5 หมื่นคอร์ส รับมือโควิด 19 ช่วงสงกรานต์

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น