ชาวสวนลำไย หวั่นผลผลิตในฤดูทะลัก ราคาตกต่ำอีกปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาอาชีพเกษตรกร (สอก.)และเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไยภาคเหนือ เปิดเผยว่า ผลผลิตลำไยถือเป็นรายได้หลักของครัวเรือนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนจำนวนมาก และที่ผ่านๆมา เผชิญปัญหาการขาดทุนสะสม อีกทั้งการเพาะปลูกลำไยที่กระจายพื้นที่ออกไปทั่วทุกภูมิภาค ส่งผลต่อกลไกการตลาด ในรูปแบบผลผลิตมาก ราคาถูก ควบคุมโดยชาวสวนต้องยอมรับสภาพ ราคาที่ไม่มีหลักประ
กันใดๆในการซื้อขาย

ดังนั้นความพยายามที่เครือข่ายชาวสวนลำไย และองค์กรการเกษตรตลอดจนสภาเกษตรฯ พยายามคือการยื่นข้อเสนอแนวทางรักษาเสถียรภาพราคาลำไย ด้วยอุตสาหกรรมลำไยครบวงจรทั้ง ในด้านการผลิต การแปรรูปและโลจิสติกส์ ในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ภายใต้แนวคิดสามเหลี่ยมทองคำลำไยยกระดับชีวิตเกษตรกร รวมถึงการผลักดัน พ.ร.บ.ลำไย ผ่านคณะกรรมการบริหาร จัดการผลไม้ หรืออนุกรรมการทุกระดับ เพื่อการแก้ไขปัญหาลำไยอย่างเป็นรูปธรรม และรวดเร็ว ไม่ใช่รอรับเงินเยียวยา ช่วยเหลือเป็นครั้งๆไป

ด้านนายธวัชชัย เดชาเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 (สศท.1) เชียงใหม่ ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานย่อย เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลโลจิสติกส์ภาคเหนือ ครั้งที่ 2/2565 โดยเป็นการประชุมจัดทำข้อมูลและบูรณาการแผนบริหารจัดการผลไม้ (ลำไยและลิ้นจี่) ระดับภาคเหนือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 สำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด(เชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ ตาก แพร่ และน่าน)


สำหรับผลสรุปภาพรวมลำไย ปีนี้พบว่า มีเนื้อที่ยืนต้น 1,289,039 ไร่ เพิ่มขึ้น 5,354 ไร่(เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.42) เนื้อที่ให้ผล 1,247,746 ไร่ เพิ่มขึ้น 53,790 ไร่(เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.51) ผลผลิต 1,072,564 ตัน เพิ่มขึ้น 131,993 ตัน(เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.03) เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยและมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเจริญเติบโต ทำให้ลำไยในช่วงนี้แทงช่อดอกมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยผลผลิตลำไยในฤดูจะเริ่มออกสู่ตลาดช่วงเดือน มิ.ย. ถึง ก.ย. ผลผลิตออกมากในเดือนส.ค. ร้อยละ 37.53 หรือประมาณ 402,580 ตัน

ด้านเครือข่ายชาวสวนลำไยภาคเหนือ และ สภาอาชีพเกษตรกร ระบุว่าคำมั่นสัญญาจะให้เงินเยียวยาไร่ละ 2 พันบาท เพื่อใช้เป็นทุนในการผลิตลำไยคุณภาพ ในปีนี้ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะได้รับช่วงไหน ประกอบกับปีนี้พื้นที่ปลูกลำไยทุกจังหวัดต้นลำไย ได้แทงช่อออกดอกและติดผลเต็มพื้นที่ ผลผลิตที่ค่อนข้างมาก มีฝนหลงฤดูมาช่วยเติมความชุ่มชื้นอีก คาดว่าผลผลิตลำไย น่าจะล้นตลาด ทำให้ราคาตกต่ำอีกปี

ดังนั้นคณะกรรมการบริหาร จัดการผลไม้ หรือฟรู๊ตบอร์ด ควรมีมาตรการรองรับที่เข้มข้น และวางแผนด้านการส่งออก การกระจายสินค้าไปยังตลาดหลักๆ โดยเฉพาะจีน ซึ่งที่ผ่านๆมาจะเห็นว่า การขนส่ง การกำหนดราคา ตามแหล่งรับซื้อ ยังมีปัญหาแบบเดิมๆ จนทำให้ชาวสวน ประกาศขายสวน หรือปล่อยเช่า กันเป็นจำนวนมาก บางส่วนก็หันไปเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นๆตามกระแส แล้วก็วนมาที่ผลผลิตล้นตลาดขาดทุน เป็นหนี้กันอีกฤดูกาล

ทั้งนี้กลุ่มชาวสวนลำไย ลำพูน กล่าวว่า ลำไยนอกฤดูปีนี้ราคาทรงตัว แต่ราคาลำไยในฤดูปีนี้ ต้องติดตามการกระจายผลผลิตไปยังแหล่งตลาดหลักๆ ถ้าดำเนินการได้ตาม คาดว่าราคาก็น่าจะทรงตัวเช่นเดียวกับลำไยนอกฤดู ทำให้ชาวสวน ไม่ได้รับผลกระทบ เดือดร้อนมากนักเนื่องจากบทเรียนที่ผ่านๆมา ชาวสวนเรียนรู้ว่า ทำอย่างไรจะสามารถ ขายผลผลิต ให้ได้ราคา และไม่ขาดทุน

ร่วมแสดงความคิดเห็น