ประสานความร่วมมืองานความมั่นคง ไทย – สปป.ลาว

กองกำลังผาเมือง ประสานความร่วมมืองานความมั่นคง ไทย-สปป.ลาว

ตามที่ กองกำลังผาเมือง ได้จัดการประชุมชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว พื้นที่ภาคเหนือของไทย กับ แขวงไซยะบุลี ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยครั้งนี้ได้จัดเป็นครั้งปฐมฤกษ์ ณ ห้องประชุมเทศบาลเมืองปากลาย แขวงไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้พบปะสร้างความคุ้นเคย สร้างความสัมพันธ์อันดี และกำหนดปฏิบัติการต่างๆ ให้มีความสอดคล้องกัน นำไปสู่ ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน ไทย-สปป.ลาว นั้น สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 1/2565 คณะฝ่ายไทย

นำโดย ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/หัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย–สปป.ลาว พื้นที่ภาคเหนือของไทย เป็นประธานร่วมฝ่ายไทย และคณะฝ่าย สปป.ลาว นำโดย หัวหน้าการทหาร กองบัญชาการทหารแขวงไซยะบุลี/หัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดน สปป.ลาว – ไทย แขวงไซยะบุลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประธานร่วมฝ่าย สปป.ลาว ซึ่งมีความปรารถนาให้มีการพัฒนาสัมพันธ์กันในทุกระดับ อันจะก่อให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่ตามแนวชายแดน และเกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแนวชายแดน ไทย – สปป.ลาว ด้วยมาตรการที่ถูกต้องและเหมาะสม บนพื้นฐานของความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

พร้อมทั้งผลักดัน ให้เกิดความร่วมมือในด้านต่างๆ และจากการประชุมในครั้งที่ผ่านมา ได้มีการเสนอแนวทางในการปฏิบัติร่วมกันในหลายประการ ดังนี้ 1. ให้มีการแลกเปลี่ยนบัญชีรายชื่อ และการติดต่อสื่อสารของเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว เพื่อใช้เป็นช่องทางในการติดต่อประสานงาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน อย่างต่อเนื่อง 2. ให้มีการพบปะหารือร่วมกัน ดังนี้ 2.1 ให้มีการพบปะหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการ ของชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว เป็นประจำ 6 เดือนต่อครั้ง โดยผลัดกันเป็นเจ้าภาพ สำหรับการกำหนด วัน เวลา และสถานที่จัดการพบปะหารือ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพิจารณาตามความเหมาะสม 2.2 ให้มีการพบปะหารือร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการ ของชุดประสานงานประจำพื้นที่จังหวัด-แขวง 3 เดือนต่อครั้ง สาหรับการกำหนด วัน เวลา สถานที่ และการเป็นเจ้าภาพ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพิจารณาต่อไป โดยแต่งตั้งผู้ประสานงานหลักของจังหวัดและแขวง ฝ่ายละ 2 คน 2.3 หากมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ให้ทั้งสองฝ่ายจัดการพบปะหารือได้ทันที และให้ฝ่ายที่เสนอ เป็นเจ้าภาพ 3. ให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์ด้านยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว รวมทั้งข้อมูลกลุ่มเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ 4. ให้ทั้งสองฝ่ายวางแผนการปฏิบัติร่วมกันในการป้องกันและสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติด โดยให้เป็นไปตามกฎหมายของแต่ละประเทศ หากปรากฏข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเร่งด่วน ให้ทั้ง สองฝ่ายประสานการปฏิบัติโดยใช้ช่องทางการติดต่อสื่อสารที่เร็วที่สุด เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์

5. การติดตามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่มีหมายจับคดียาเสพติดซึ่งมีการหลบหนีข้ามแดน เมื่อมีการจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายของแต่ละฝ่าย หรือมีการร้องขอจากอีกฝ่ายให้ดำเนินติดตามตัว เมื่อพ้นโทษแล้วให้ส่งบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเป้าหมายพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้อีกฝ่าย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายของฝ่ายนั้นต่อไป 6. ให้มีการฝึกอบรม และการปฏิบัติการร่วมกัน ดังนี้ 6.1 ในกรณีหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งฝ่ายนั้นมีความชำนาญ ให้เชิญอีกฝ่ายเข้าร่วมการอบรมด้วย เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน 6.2 หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีการปฏิบัติการปิดล้อม/ตรวจค้น หมู่บ้านตามแนวชายแดน ให้แจ้ง/ประสานการปฏิบัติกับอีกฝ่าย ก่อนที่จะปฏิบัติการปิดล้อม/ตรวจค้น เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดระหว่างเจ้าหน้าที่ และป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดหลบหนีไปยังดินแดนของอีกฝ่าย 6.3 ให้มีการลาดตระเวนร่วมกัน เพื่อป้องกันและสกัดกั้นความเคลื่อนไหวของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติภายใต้อธิปไตยของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ ให้ดำเนินการเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมและเห็นชอบร่วมกัน 6.4 ในกรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดให้แจ้ง/ประสานการปฏิบัติกับอีกฝ่าย เพื่อทำการตรวจสอบข่าวสารตามที่อีกฝ่ายแจ้งเตือน จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพภาคที่ 3 และหน่วยทหารในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกโอกาส แน่วแน่แก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติ

ในทุกมิติ รวมทั้งผนึกกำลังทุกภาคส่วนสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติสืบไป

คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 3 (6 เมษายน 2565)

ร่วมแสดงความคิดเห็น