(มีคลิป) กลุ่มผู้เสียหาย ร้อง ตร.ภาค 5 โดนหลอกขายที่ดิน

กลุ่มผู้เสียหาย นับ 20 กว่าราย เข้าร้อง ตร.ภาค 5 หลังโดนหญิงสาวจอมแสบหลอกขายที่ดิน ให้วางมัดจำ ก่อนเชิดเงินหนี สูญนับ กว่า 5 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 เมษายน 2565 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 กลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 รายเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ. 5 เพื่อลงชื่อแจ้งความเพิ่มเติมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหา ที่หลอกลวงต้มตุ๋นเหยื่อจนมีผู้เสียหายจำนวนมากดังกล่าวได้สำเร็จ

ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นางสาวปัทมา หรืออ้อ (สงวนามสกุล) อายุ 47 ปี ชาวตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฉ้อโกงในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน โดยผู้ต้องหานั้นมีหมายจับคดีฉ้อโกงของศาลแขวงเชียงใหม่, ศาลจังหวัดเชียงใหม่ และศาลจังหวัดลำพูน ตั้งแต่ช่วงปี 2564 รวมกันทั้งสิ้น 9 หมาย ตำรวจออกติดตามจับกุมโดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ. 5 เปิดเผยว่า ทั้งนี้การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีกลุ่มผู้เสียหายประมาณ 20 คน ได้รับความเสียหายจากกรณีที่โดนนางปัทมา ผู้ต้องหา หลอกลวงเอาทรัพย์สินไป รวมประมาณ 5 ล้านกว่าบาท ได้รวมกลุ่มกันเข้ามาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมที่กองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวนางปัทมา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า พฤติการณ์ของนางปัทมา จะมีการอ้างว่าเป็นนักธุรกิจ ด้านอสังหาริมทรัพย์ ซื้อขาย ที่ดิน บ้าน ในราคาที่ถูกกว่าคนทั่วไป โดยเรียกค่ามัดจำก่อน แล้วเชิดหนีหายไป

หลังพบผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากตนจึงสั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมให้ได้ก่อนที่จะไปก่อเหตุมีผู้เดือดร้อนอีก จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.ลำพูน ขณะกบดานในหอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ตอนนี้อยากให้ผู้เสียหายที่ถูกนางสาวปัทมา หลอกลวงต้มตุ๋นออกมาให้ปากคำกับตำรวจที่กองบังคับการสืบสวนภาค 5 เพื่อจะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
ทางด้าน นางสาว อักษรจัญจ์ (สงวนามสกุล) อายุ 29 ปี ลูกสาวของผู้เสียหายรายหนึ่ง ให้การว่า ก่อนหน้านี้แม่ของตนเองได้ติดต่อขอซื้อที่ดินและติดตามทางเพจซื้อขายที่ดิน จนกระทั่งมารู้จักกับนางสาวปัทมา ผู้ต้องหา โดยนางสาวปัทมา อ้างว่า มีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งจะแบ่งขายในราคา ล้านกว่าบาท เนื้อที่ 91 ตารางวา และได้ตกลงซื้อขายไปดูที่ดิน 1 ครั้ง จากนั้น ก็ขอวางมัดจำ 2 แสนกว่าบาท และครั้งที่ 2 อีก สามแสนกว่าบาท รวม 5 แสนกว่าบาท หลังจากนั้นผู้ต้องหาก็หนีหายไปเลย จึงแจ้งความไว้จนกระทั่งตำรวจติดตามจับกุมได้ดังกล่าว