(มีคลิป) ยันไม่มี ตร.เอี่ยว เรียกเงินพ้นคดี

พ่อผู้ต้องหาแฉ สจ.ดัง เรียกเจ็ดแสนอ้างช่วยลูกชายพ้นคดียาเสพติด ผู้การฯ ยืนยันไม่มีตำรวจเกี่ยวข้องและไม่มีใครวิ่งล้มคดีได้ แจงจับกุมถูกต้องตามพยานหลักฐาน

กลายเป็นประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงในจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเมื่อวานนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ชื่อว่าพิจิตร (สงวนามสกุล) โพสต์คลิปการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ที่อ้างตัวตัวว่าสามารถวิ่งเต้นคดี ช่วยเหลือลูกชายของตนเองที่ถูกจับในคดียาเสพติดให้พ้นผิดได้ โดยในการสนทนามีการเรียกรับเงินจำนวน 7 แสนบาท เป็นการแลกเปลี่ยน ทำให้เกรงว่าคดีนี้จะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะทางครอบครัวไม่มีเงินไปจ่ายให้และเกรงกลัวอิทธิพลของนักการเมืองคนดังกล่าว จึงออกมาเรียกร้องผ่านสื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ

ล่าสุดในวันนี้ (7 เม.ย.65) นายพิจิตร ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว เล่าว่า ลูกชายถูกตำรวจสืบสวน สภ.แม่ปิง นำหมายจับเข้าจับกุมตัวที่บ้านเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ตำรวจคนหนึ่งได้เอาเบอร์โทรศัพท์ให้กับลูกสะใภ้ บอกว่าเป็นเบอร์ของนักการเมืองท้องถิ่น ลูกสะใภ้ได้โทรศัพท์ไปคุย นักการเมืองคนดังกล่าวบอกว่าขอเจ็ดแสนจะช่วยให้หลุดคดีได้ เมื่อลูกสะใภ้บอกว่าไม่มีเงิน ก็ให้ไปพยายามหามาให้ โดยนายพิจิตรบอกว่าทางครอบครัวไม่มีเงินให้ จึงทำให้กลัวว่าลูกชายจะถูกกลั่นแกล้งยัดข้อหาเพิ่มเติม เพราะคดีก็รู้สึกแปลกใจมาแต่แรกเพราะในการจับกุมลูกชาย ก็ไม่มีหลักฐานหรือของกลางอะไรและในหมายจับระบุให้จับกุมในพื้นที่หมู่ 4 ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ แต่มีการเข้าจับกุมในบ้านของตนเองที่อยู่หมู่ 7

นายพิจิตร บอกด้วยว่า นักการเมืองคนดังกล่าวรับปากว่าช่วยเหลือได้แน่นอนและไม่ต้องกลัวจะเพราะเป็นคนในพื้นที่เดียวกัน ตอนนี้ทางครอบครัวไม่มีเงินและกลัวลูกชายถูกกลั่นแกล้ง จึงตัดสินใจออกมาร้องเรียนเพราะถือว่าตอนนี้หลังชนฝาแล้ว

ส่วน นางสาวแนท ( นามสมมุติ) อายุ 30 ปี แฟนสาวของผู้ต้องหา เล่าว่า แฟนหนุ่มถูกตำรวจจับกุมที่บ้านในช่วงประมาณ 10.00 น. วันที่ 30 มีนาคม หลังจากนั้นถูกนำตัวไปสอบสวนในเซฟเฮ้าส์ โดยมีตำรวจให้เบอร์โทรศัพท์นักการเมืองคนนี้ แนะนำว่าสามารถช่วยเหลือในเรื่องการขอประกันตัวได้ แต่เธอก็ยังไม่ได้โทร จากนั้นช่วงบ่าย และถูกส่งตัวไปที่ สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

เมื่อถึงโรงพักได้พบกับตำรวจ แฟนหนุ่ม และ นักการเมืองคนดังกล่าวอยู่ด้วยกัน โดยนักการเมืองคนนี้เสนอว่าถ้าอยากช่วยแฟนให้หลุดจากคดี ให้ไปหาเงินมาเจ็ดแสนบาท จะช่วยให้หลุดจากคดีได้ จังหวะนั้นต้องการช่วยแฟนหนุ่มจึงกลับบ้านมาปรึกษาคราอบครัว หลังจากถึงบ้านไม่นาน นักการเมืองคนดังกล่าวก็โทรเข้ามาหาก บอกว่าถ้ายังไม่มีเงินก็ให้หามาให้ก่อนสองหรือสามแสนบาท เพื่อไปเดินเรื่องก่อน ตนก็พยายามหาทาง จนกระทั่งช่วงค่ำวันเดียวกัน ตนเองก็โทรกลับไปหา บอกว่า หาเงินไม่ได้ ซึ่งนักการเมืองคนดังกล่าวก็บอกว่าถ้าไม่มีเงินก็จะต้องปล่อยให้มีการดำเนินคดี

นางสาวแนท ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้แฟนหนุ่มมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง แต่การจับกุมครั้งนี้กลับไม่มีหลักฐานหรือของกลางอะไร ส่วนที่ตอนแรก เชื่อว่าผู้ใหญ่คนดังกล่าวจะช่วยเหลือได้ เพราะดูน่าเชื่อถือและเห็นอยู่ด้วยกันกับตำรวจที่โรงพัก ตอนแรกจึงเริ่มมีความหวัง แต่สุดท้ายก็หาเงินไม่ได้ และ ตัดสินใจนำเรื่องมาเปิดเผยเพราะกลัวแฟนหนุ่มไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรมในทางคดี

ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนคดีได้ตรวจสอบกับ สภ.แม่ปิง แล้ว ยืนยันมีการดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐานและทำให้ศาลอนุมัติหมายจับ หลังจับกุมมีความพยายามขอประกันตัว แต่พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีของกลางจำนวนมาก

ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีตำรวจแนะนำและให้เบอร์โทรศัพท์นักการเมืองคนดังกล่าวกับครอบครัวผู้ต้องหา ตรวจสอบแล้วยืนยันไม่มีตำรวจให้เบอร์ไป แต่ทราบว่าครอบครัวผู้ต้องหากับนักการเมืองรู้จักกันมาก่อนเนื่องจากอยู่ในพื้นที่เดียวกันและมีการติดต่อกันเอง จนกระทั่งมาคุยกันที่โรงพัก

พล.ต.ต.ธวัชชัย ยืนยันว่าทุกคดีไม่มีการวิ่งเต้นเปลี่ยนเนื้อสำนวน ส่วนกรณีการกล่าวอ้างที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายกรรโชกหรือรีดเอาทรัพย์หรือไม่ ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน เบื้องต้นพบว่า ไม่ได้มีการใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปเรียกรับเงิน แต่เป็นการกล่าวอ้างขึ้นมาเอง หลังจากนี้จะคุยกับคนโพสเรื่องนี้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อยากให้ทุกคนพูดความจริง ไม่เอาความขัดแย้งส่วนตัวมาทำให้ผู้อื่นหรือตำรวจเดือดร้อนไปด้วยและส่วนที่มีการพาดพิงว่าตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจะดูว่าทำให้ตำรวจเสียหายด้วยหรือไม่ โดยเรื่องนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามเรื่องนี้กับ สจ.คนดังกล่าว ได้รับการปฏิเสธจะให้ข้อมูลหรือชี้แจงในเรื่องที่เกิดขึ้น และ เมื่อตรวจสอบก็พบว่านายพิจิตรซึ่งเป็นคนโพสต์คลิปเป็นอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ และ อยู่คนละขั้วการเมืองกับ สจ.คนดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น