คงอันดับความน่าเชื่อถือไทย 2-3 ปีเศรษฐกิจโต

วันที่ 7 เม.ย.65 บริษัท Moody’s Investors Service (Moody’s) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

Moody’s คาดว่า ในระยะยาวการดำเนินการภายใต้โครงการ EEC จะสนับสนุนการลงทุนเพิ่มขึ้นและการเพิ่มผลผลิต (Productivity) เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ คาดว่า ในระยะ 2 – 3 ปีข้างหน้าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด19 คลี่คลาย และภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้น จึงคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2565 และปี 2566 จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 3.4 และร้อยละ 4.8 ตามลำดับ

ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) ของประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกัน ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) มีความเข้มแข็ง ทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าปี 2565 ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเล็กน้อยเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น แต่คาดว่าจะกลับมาเกินดุลในปี 2566

Moody’s Investors Serviceซึ่งมักเรียกกันว่า Moody’s เป็นธุรกิจจัดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของMoody’s Corporationซึ่งเป็นตัวแทนของสายธุรกิจดั้งเดิมของบริษัทและชื่อในอดีต Moody’s Investors Service ให้บริการวิจัยทางการเงินระหว่างประเทศเกี่ยวกับพันธบัตรที่ออกโดยหน่วยงานทางการค้าและภาครัฐ Moody’s พร้อมด้วยStandard & Poor’sและFitch Groupถือเป็นหนึ่งในสามหน่วยงานจัดอันดับเครดิตรายใหญ่

ร่วมแสดงความคิดเห็น