(มีคลิป) รับจ้างเปิดบัญชีแก๊งมิจฉาชีพ

สาววัย 41 ปี ชาว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ รับจ้างเปิดบัญชีแก๊งมิจฉาชีพ พบเปิดบัญชีมาแล้วกว่า 30 บัญชี ด้านผู้การเชียงใหม่เตือนมีความผิด เข้าข่ายสมรู้ร่วมคิด มีโทษทางกฎหมาย

เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (8 เม.ย. 65) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงศ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เข้าทำการสอบสวนพร้อมแถลงข่าวให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน กรณี การจับกุม นางสาวธนสินี (สงวนามสกุล) อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.271/2565 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นๆ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าจะเป็นทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ที่บริเวณ

โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากกรณีได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ถ้ามีการติดตามข้อมูลว่าได้มีนายหน้ารับเปิดบัญชี เพื่อขายให้กับนายทุน โดยพบว่า บัญชีเหล่านี้ได้นำไปใช้ในการกระทำความผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และลองร่วมลงทุนในหลายท้องที่ การเจ้าหน้าที่จึงได้สืบทราบข้อมูลจะพบว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือ นางสาว ธนสินี สายหล่อ หาเจ้าหน้าที่จะได้ขอใหม่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว

โดยในเบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนต้องการจะใช้เงินน่าจะทำบ้านมีความขัดสนจึงได้พยายามขายรถยนต์เก่าตามเพจต่างๆ แต่ไม่มีใครสนใจ ตนจึงเลื่อนหาข้อมูลก็พบว่ามีการรับซื้อบัญชีธนาคาร โดยได้รายได้ประมาณ 2-3 พัน บาทต่อ 1 บัญชี โดยนายหน้าได้ให้การว่าจะนำไป เล่นสล็อตหรือเว็บการพนัน ตนจึงได้ทดลองโดยการติดต่อขายบัญชีกับผู้รับซื้อ โดยมีการนัดตกลงเปิดบัญชีและรับมอบเงินกับนายหน้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

นอกจากนี้ ทางผู้ต้องหายังสารภาพว่า ที่ผ่านมาได้เปิดบัญชีธนาคารต่างๆ หลายบัญชีรวมแล้วกว่า 30 บัญชี เนื่องจากตนเห็นว่าเป็นการหาเงินที่ได้ง่ายและสะดวก นอกจากนี้ตนยังได้แนะนำให้คนใกล้ตัวได้มาร่วมเปิดบัญชีด้วย สุดท้ายตนได้รับแจ้งจาก พนักงานสอบสวนและถูกจับกุมเนื่องจากบัญชีของตนได้ถูกนำไปใช้เพื่อเป็นบัญชีรับโอนเงินจากการกระทำผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และหลอกร่วมลงทุนในหลายท้องที่ ก่อนจะดูเจ้าหน้าที่จับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ทางด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงศ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมในคดีนี้ได้ดำเนินการในในข้อหาการร่วมกันหลอกให้ประชาชนลงทุน โดยผู้เสียหายในคดีนี้ได้มีการถูกหลอกให้ร่วมลงทุนโดยโอนเงินผ่านบัญชีม้า เบื้องต้น 3 บัญชี โดยบัญชีของผู้ต้องหารายนี้ถือเป็น 1 ใน 3 บัญชี แต่ที่น่าสนใจคือตัวผู้ต้องหารวมถึงสามีและญาติ ได้มีการรับจ้างเปิดบัญชีรวมๆ แล้วกว่า 30 บัญชี และถูกส่งไปให้กับนายทุน ซึ่งที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้ถูกดำเนินคดีหลายที่ โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการอายัดบัญชีทั้งหมด คาดว่ามีเงินหมุนเวียนในหลายๆ บัญชีกว่า 10 ล้าน ทั้งนี้อยากจะฝากเตือนประชาชน ในการที่รับจ้างเปิดบัญชี ถือว่าเป็นการกระทำความผิด เป็นการมีส่วนร่วมในองค์กร ในการกระทำความผิด หากเป็นการกระทำข้ามชาติ ก็จะมีโทษหนัก

ร่วมแสดงความคิดเห็น