ปตท. ปรับขึ้นราคาน้ำมัน

ข่าวปลอม !!!ปตท. ปรับขึ้นราคาน้ำมัน เพื่อชะลอการเดินทางของประชาชน ลดการแพร่ระบาดโควิด 19

วันที่ 8 เม.ย. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีข้อมูลเผยแพร่ในช่องทางสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องปตท. ปรับขึ้นราคาน้ำมัน เพื่อชะลอการเดินทางของประชาชน ลดการแพร่ระบาดโควิด 19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กระทรวง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความแจ้งสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันขึ้น เพราะทาง ปตท. ได้ร่วมโครงการต้านโควิด 19 การปรับราคาน้ำมันขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการชะลอการเดินทางของประชาชน และลดการแพร่ระบาดโควิด 19 นั้น ทางบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นข่าวที่เคยมีการเผยแพร่ไปแล้วเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2564 ซึ่งการปรับขึ้นราคาน้ำมันในช่วงนั้น เป็นไปตามต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เพื่อการชะลอการเดินทางของประชาชนตามที่มีการส่งต่อข้อมูลแต่อย่างใด โดยธุรกิจน้ำมันในประเทศไทยเป็นการค้าเสรีมาตั้งแต่ปี 2534 มีผู้ประกอบการค้าน้ำมันหลายราย โดยผู้ประกอบการค้าน้ำมันทุกรายมีอิสระในการตั้งราคาโดยมีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้กำกับดูแล ได้แก่ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน แนะนำค่าการตลาดที่เหมาะสม และกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ควบคุมให้ผู้ค้าขายตามราคาที่ประกาศ ซึ่งบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เป็นบริษัท Flagship ของกลุ่ม ปตท. ด้านการค้าน้ำมันและการค้าปลีก เป็นหนึ่งในผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 และเป็นผู้บริหารสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น (PTT Station) หรือเดิมที่รู้จักกันในชื่อสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในการปรับราคาน้ำมันของสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น นั้น โออาร์ ยึดหลักการปรับราคาสอดคล้องกับต้นทุนและสถานการณ์การแข่งขัน รวมทั้งรักษาระดับของค่าการตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิต 19 ระลอกที่ 3 สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 1.90 บาท/ลิตร ซึ่งสอดคล้องกับต้นทุนซึ่งประกอบด้วยต้นทุนเนื้อน้ำมันในตลาดโลกและต้นทุนของราคาพลังงานทดแทน (เอทานอลและไบโอดีเซล B100) ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.02 บาท/ลิตร

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pttplc.com หรือโทร. 1365 PTT Center

บทสรุปของเรื่องนี้ : การปรับขึ้นราคาน้ำมันในช่วงนั้นเป็นไปตามต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เพื่อการชะลอการเดินทางของประชาชนตามที่มีการส่งต่อข้อมูลแต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น