ปภ.แนะตรวจสอบรถ – แก้ไขเหตุฉุกเฉิน…ขับรถช่วงฤดูร้อนปลอดภัย
การขับรถท่ามกลางแสงแดดแรงจัดในช่วงฤดูร้อน ประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้อุปกรณ์ประจำรถเสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าปกติ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย
โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะการตรวจสอบสภาพรถและการแก้ไขเหตุฉุกฉินในการขับรถช่วงฤดูร้อน ดังนี้
ระบบระบายความร้อน
- หมั่นตรวจสอบหม้อน้ำ ท่อยาง และปั๊มน้ำ ไม่ให้มีรอยรั่ว พัดลมหม้อน้ำไม่แตกหักหรือเสื่อมสภาพ
- เติมน้ำในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับที่กำหนด และสังเกตเข็มวัดระดับความร้อนบนหน้าปัดรถยนต์ เพื่อป้องกันความร้อนขึ้นสูง ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดและเสียหายยางรถยนต์
- ตรวจสอบยางให้อยู่ในสภาพปลอดภัย เพราะอุณหภูมิผิวถนนที่สูงกว่าปกติ ทำให้ยางบวมและเสี่ยงต่อการระเบิด
- เติมลมยางให้มากกว่าปกติ จะช่วยป้องกันการบิดตัวของแก้มยาง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิด
แบตเตอรี่ - ตรวจสอบแบตเตอรี่ให้เก็บประจุไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีรอยแตกร้าว ขั้วแบตเตอรี่ไม่สกปรก เพื่อให้พัดลมหม้อน้ำสามารถระบายความร้อนได้เต็มที่
- หลังจากสตาร์ทรถไม่ควรออกรถในทันที ควรรอสักพัก เพื่อให้เครื่องยนต์คลายความร้อนลง จึงค่อยออกรถ
เหตุฉุกเฉินที่มักเกิดในช่วงสภาพอากาศร้อน
กรณีเครื่องยนต์ร้อนจัด
- จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย และปิดเครื่องปรับอากาศ
- ดับเครื่องยนต์ เมื่อรอบเครื่องคงที่
- เปิดกระโปรงหน้ารถ เพื่อระบายความร้อนของเครื่องยนต์
- ห้ามเปิดหม้อน้ำ ในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัด
- รอจนเครื่องยนต์เย็น จึงเติมน้ำเปล่าหรือน้ำหล่อเย็น
กรณียางระเบิด ให้ปฏิบัติ ดังนี้ - จับพวงมาลัยให้มั่น ค่อย ๆ ถอดคันเร่ง และบังคับรถให้อยู่ในช่องทาง
- เหยียบย้ำเบรกเบา ๆ แบบถี่ ๆ และลดระดับเกียร์ เพื่อชะลอความเร็วของรถ
- กรณีรถแฉลบ ให้บังคับพวงมาลัยกลับมาทางตรงในทิศทางตรงกันข้ามกับยางที่ระเบิด
- ห้ามเหยียบเบรกหรือดึงเบรกมือ เพราะทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำได้
- ห้ามเหยียบคลัตช์ เพราะทำให้บังคับรถยากขึ้น
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน เพราะทำให้อุปกรณ์ประจำรถที่มียางเป็นส่วนประกอบ อาทิ ขอบประตู ขอบหน้าต่างที่ปัดน้ำฝน เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
ร่วมแสดงความคิดเห็น