2 พ่อลูก หอบเอกสารร้องศูนย์ดำรงธรรมเชียงราย หลังถูกนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกฯ รุกที่ทำกิน
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 65 ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ได้มีนายบุญสม อุดทา อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่บ้านวังเขียว หมู่ที่ 8 ต.หนองป่าก่อ อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย และนายอุดม อุดทา อายุ 52 ปี ลูกชาย นำหนังสือร้องเรียนพร้อมเอกสารใบแจ้งความฯ ภาพถ่ายที่ดิน เอกสารอื่นๆเข้ายื่นขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม เนื่องจากถูกบุกรุกและยึดที่ทำกินจากเจ้าหน้าที่นิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกเชียงราย เขตอำเภอแม่จัน
โดยหนังสือร้องเรียนดังกล่าวระบุว่า ที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่จำนวน 12 ไร่ ตนได้เข้ามาทำกินในเขตพื้นที่หมู่บ้านวังเขียวหมู่ที่ 8 ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2528 ซึ่งที่ดินดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ ต่อมาในปี พ.ศ.2546 ได้มีเจ้าหน้าที่ของนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึก เชียงราย ได้เข้ามาจัดสรรที่ดินทำกินให้กับทหารผ่านศึก โดยแบ่งแยกเป็นเขตของชาวบ้านและเขตของทางนิคมทหารผ่านศึก และได้โยกย้ายให้ชาวบ้านมาทำกินในเขตในเขตของชาวบ้านและให้ทหารปลดประจำการทำกินในเขตของนิคมทหารผ่านศึก
ซึ่งในขณะตน ไม่ยอมโยกย้ายออกจากพื้นที่เดิม และตนได้ขออนุญาตอยู่ที่เดิม โดยมีนายสมจิตร ซาวภูทอง ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้านิคมทหารผ่านศึกในเวลานั้น ท่านได้อนุญาตให้ตนและลูกชายทำกินในพื้นที่ดินแปลงนี้ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน ปีพ.ศ.2565 นับจากปี 2546 เป็นต้นมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้านิคมทหารผ่านศึกหลายคนแล้ว ก็ไม่เคยมีปัญหาใดๆ จนกระทั้งมาถึงปี 2565 นายภัทรากร แจ้งอิ่ม ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งหัวหน้านิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกคนใหม่ และเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 65 นายภัทราได้สั่งให้พนักงานขับรถของทางนิคมฯทหารผ่านศึกนำรถไถเข้ามาบุกรุกทำแนวเขตเพื่อที่จะยึดครองที่ทำกิน และยังได้ข่มขู่ลูกชายของตนว่า หากนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนหรือไม่ยอมคืนที่ดินให้ จะต้องเดือดร้อน และจะไม่สามารถอยู่หมู่บ้านวังเขียวหมู่ที่ 8 นี้ได้อีกต่อไป
“หลังเกิดเหตุ ลูกชายตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ดอยหลวง และทุกข์ใจมากไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือเราสองคนพ่อลูกด้วย” นายบุญสม กล่าว
ร่วมแสดงความคิดเห็น