(มีคลิป) ทต.แม่ใจ แจงโรงพักขยะกลางชุมชน

ชาวบ้านร้อง! โรงพักขยะ ทต.แม่ใจ ตั้งกลางชุมชน ก่อเกิดมลพิษ ด้านนายกฯ แจง ดำเนินการอย่างมีระบบ ลดปัญหาขยะและค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีชาวบ้านในพื้นที่เทศบาลตำบลแม่ใจ ต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ จ.พะเยา ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมีการนำขยะในเขตพื้นที่ ทต.แม่ใจ มากองพักไว้ใกล้กับโรงฆ่าสัตว์ พื้นที่บ้านแม่ใจหางบ้าน ม.4 ต.ศรีถ้อย เพื่อรอการคัดแยก ก่อเกิดปัญหามลพิษทั้งเรื่องกลิ่นและน้ำเสีย มาอย่างต่อเนื่องกว่า 9 ปี นับตั้งแต่นายกเทศมนตรีคนเดิมยังอยู่ในตำแหน่ง จนมีนายกเทศมนตรีคนใหม่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข แถมจุดพักขยะดังกล่าวยังห่างจากหนองเล็งทรายแค่ 240 เมตร จึงหวั่นผลกระทบเป็นวงกว้าง

นายพยงค์ พงศ์ร่มเย็น อายุ 55 ปี ตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า แต่เดิมมีจุดพักขยะอยู่ในพื้นที่บ้านแพะ ม.9 ต.ศรีถ้อย แต่มีปัญหาผลกระทบเรื่องมลพิษต่างๆ ชาวบ้านจึงร้องเรียนขอให้ย้าย ทางผู้บริหารเทศบาลชุดเก่าจึงให้ย้ายมาที่บ้าน ม.4 ซึ่งเป็นโรงฆ่าสัตว์และเป็นที่จอดรถของเทศบาล ทีแรกหมือนจะเอาเป็นที่พักขยะชั่วคราว แต่ไปๆมาๆกลับไม่มีการย้ายไปพื้นที่อื่น มีการนำขยะมาทิ้งอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปีที่ดำรงตำแหน่ง และเมื่อครบวาระรักษาการณ์อีก 2-3 ปี ก็ยังนำมาทิ้งที่เดิม ตอนนี้ก็ย่างเข้ามาเป็นปีที่ 9 ที่ยังมีการนำขยะมาทิ้ง ไม่มีการดำเนินการอย่างเหมาะสม ซึ่งนายกคนปัจจุบันก็ทราบปัญหาดังกล่าวดี และเป็นหนึ่งในคนที่เคลื่อนไหวต่อต้านเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด แต่พอได้มารับตำแหน่งนายกฯคนใหม่ ก็กลับไม่ดำเนินการแก้ไข แต่กลับเพิ่มปัญหาให้มีมากขึ้นกว่าเดิม

ต่อมานายพยงค์ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดพักและคัดแยกขยะดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลประมาณ 50 เมตร โดยนายพยงค์เล่าต่อว่า แต่เดิมจะมีการนำเอาขยะมากองพักไว้ที่ลานหญ้าใกล้กับโรงฆ่าสัตว์ แต่ปัจจุบันย้ายไปกองไว้ที่โรงเก็บรถของเทศบาล ซึ่งจุดกองขยะเดิมมันอยู่ใกล้แหล่งน้ำของชุมชน ห่างหนองเล็งทรายซึ่งเป็นต้นน้ำของกว้านพะเยาและแม่น้ำอิงแค่เพียง 200 กว่าเมตร โดยแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้จุดพักขยะจะมีสีดำ สัตว์น้ำไม่สามารถอยู่อาศัยได้ แถมมีปัญหาเรื่องกลิ่นจากที่พักขยะที่ชาวบ้านโดยรอบต้องทนรับสภาพมานานหลายปี

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เทศบาลตำบลแม่ใจ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยนาวาอากาศเอกสุรชิต ดวงจันทร์ นายกเทศมนตรตำบลแม่ใจ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปัญหาขยะในพื้นที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้วแต่ผู้บริหารชุดเดิม มีการนำขยะมากองสุมไว้ ส่งกลิ่นเหม็น นานๆทีถึงจะมีการขนย้ายสักครั้ง ไม่มีการดำเนินการอย่างเหมาะสม และใช้งบประมาณของเทศบาลไปอย่างมหาศาล ปีละกว่า 3 ล้านบาท ตนเห็นปัญหาขยะเป็นเรื่องสำคัญและชูนโยบายการบริหารจัดการขยะเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน และเมื่อมีโอกาสได้มาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ตนก็ได้เข้ามาดำเนินการรณรงค์ให้ชาวบ้านช่วยกันคัดแยกขยะ แบ่งการจัดเก็บขยะตามวันคือระบุคือ วันจันทร์และพฤหัสบดี จะเก็บขยะย่อยสลายได้ เช่น เศษผัก ผลไม้กิ่งไม้ วัชพืชขนาดเล็ก วันอังคารจัดเก็บขยะย่อยสลายยากที่ต้องส่งกำจัด เช่น โฟม ยาง ผ้าอนามัย แพมเพิส ฯลฯ วันพุธจัดเก็บขยะรีไซเคิล เช่น กล่องกระดาษ พลาสติก ขวดแก้ว สายไฟ ฯลฯ และวันพฤหัสสุดท้ายของเดือนจะเก็บขยะอันตราย เช่น หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย จอภาพ กระป๋องสเปรย์ ฯลฯ ส่วนทุกวันศุกร์จะมีการพลิกกองขยะ

โดยขยะย่อยสลายง่ายทางเทศบาลจะนำไปทำปุ๋ยหมักเพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านนำไปใช้ในการเพาะปลูก ส่วนขยะรีไซเคิลทางเทศบาลจะคัดแยกอีกครั้งเพื่อแบ่งประเภท ก่อนจะนำเข้าเครื่องอัดก้อน เพื่อรอส่งขายให้กับบริษัทที่รับซื้อต่อไป

หลังจากตนได้เข้ามาบริหารก็ได้ย้ายจุดกองขยะเพื่อรอการคัดแยก มาไว้ที่บริเวณโรงจอดรถเดิม จึงยังไม่มีปัญหาการรั่วซึมของน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติแต่ในอนาคตทางเทศบาลมีโครงการจะสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย มีบ่อเกรอะ บ่อน้ำซึม จะไม่ไหลเข้าสู่ชุมชนโดยตรง

“ตนเคยคัดค้านโครงการจุดพักขยะดังกล่าว เพราะผู้บริหารชุดเดิมไม่มีกระบวนการบริหารจัดการขยะที่ดี แต่เมื่อตนได้มาบริหารก็ได้วางแผนการจัดการขยะอย่างดี มีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ สามารถอธิบายได้ว่าแต่ละเดือนมีปริมาณขยะแต่ละชนิดจำนวนเท่าไหร่ สามารถลดปริมาณขยะที่ต้องส่งไปกำจัดได้อย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่เคยมีขยะที่ต้องถูกส่งไปกำจัดมากกว่า 80 ตันต่อเดือน ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 40 กว่าตันต่อเดือน ลดรายจ่ายของเทศบาลได้อย่างเห็นชัด ส่วนเรื่องโรงเผาขยะขนาดใหญ่เราไม่เอา เพราะถือว่าเป็นการสร้างมลพิษ” นายกเทศมนตรีตำบลแม่ใจ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น