สถานการณ์วาตภัยใน 14 จังหวัด

ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์วาตภัยใน 14 จังหวัด เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือ

วันนี้ (18 เม.ย. 65) เวลา 10.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานสถานการณ์จากความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบน ลาวตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นบางพื้นที่ จะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 16 – 18 เมษายน 2565 ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ พิจิตร ลำพูน สกลนคร มหาสารคาม อุดรธานี ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง รวม 32 อำเภอ 56 ตำบล 95 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 152 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (เชียงราย) แยกเป็น

ภาคเหนือ 6 จังหวัด รวม 15 อำเภอ 21 ตำบล 45 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 53 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ดังนี้

1.แม่ฮ่องสอน เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง

2.เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงของ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงแก่น อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง และอำเภอพาน รวม 10 ตำบล 10 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

3.เชียงใหม่ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอกัลยานิวัฒนา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน

4.เพชรบูรณ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอหล่มสัก รวม 1 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 50 หลัง

5.พิจิตร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะพานหิน และอำเภอบางมูลนาก รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน

6.ลำพูน เกิดวาตภัยในพื้นที่ อำเภอเมืองลำพูน รวม 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด รวม 8 อำเภอ 11 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 48 หลัง ดังนี้

7.สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวานรนิวาส รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน

8.มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม และอำเภอกันทรวิชัย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน

9.อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเพ็ญ และอำเภอบ้านดุง รวม 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 36 หลัง

10.ชัยภูมิ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภักดีชุมพล อำเภอบำเหน็จณรงค์ และอำเภอซับใหญ่ รวม 5 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 12 หลัง

ภาคตะวันออก 2 จังหวัด รวม 6 อำเภอ 20 ตำบล 23 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 28 หลัง ดังนี้

11.นครนายก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอบ้านนา อำเภอปากพลี และอำเภอองครักษ์ รวม 18 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 28 หลัง

12.ปราจีนบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาดี และอำเภอประจันตคาม รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน

ภาคกลาง 2 จังหวัด รวม 3 อำเภอ 4 ตำบล 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 23 หลัง ดังนี้

13.สิงห์บุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าช้าง และอำเภอบางระจัน รวม 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 17 หลัง

14.อ่างทอง เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอป่าโมก รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง

ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ได้ทุกที่ทุกเวลา

ร่วมแสดงความคิดเห็น