ข่าวปลอม! วิธีตรวจเช็กอาการหลอดเลือดสมอง

ข่าวปลอม! คลิปวีดีโอวิธีตรวจ เช็กอาการหลอดเลือดในสมองตีบ

วันที่ 22 เม.ย. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการโพสต์วีดีโอในสื่อออนไลน์ต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องคลิปวีดีโอวิธีตรวจเช็กอาการหลอดเลือดในสมองตีบ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงกิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากที่มีการเผยแพร่วีดีโอในสื่อออนไลน์โดยระบุว่า วิธีตรวจเช็กอาการหลอดเลือดในสมองตีบ ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การที่ก้มแล้วมีอาการรู้สึกสมองบวม มึนหัว ตาแดง หูอื้อ ไม่เกี่ยวกับอาการโรคหลอดเลือดสมองตีบ เพราะเป็นหลอดเลือดคนละเส้นกัน อาการดังกล่าวที่เกิดขึ้นเกิดจากเลือดไหลไปเลี้ยงที่ศีรษะจำนวนมากทำให้เกิดอาการดังกล่าว ซึ่งเป็นคนละส่วนกับหลอดเลือดในสมองแต่การก้มศีรษะนานๆโดยเฉพาะคนที่มีกระดูกคอเสื่อม อาจไปกดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองทำให้เกิดอาการวูบ หมดสติหรือเวียนศีรษะรุนแรงได้โรคหลอดเลือดสมองโดยส่วนมากมักจะไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า ผู้ป่วยมักมีความผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นทันทีหรือเฉียบพลัน เช่น แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัด หน้าเบี้ยว โดยหากมีอาการสงสัยโรคหลอดเลือดสมองควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.dms.go.th/ หรือโทร 0-2590-6000

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การที่ก้มแล้วมีอาการรู้สึกสมองบวม มึนหัว ตาแดง หูอื้อ ไม่เกี่ยวกับอาการโรคหลอดเลือดสมองตีบเพราะเป็นหลอดเลือดคนละเส้นกันอาการดังกล่าวที่เกิดขึ้น

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น