กลุ่มรถขนส่งจ่อปรับราคา ค่าครองชีพพุ่ง

1 พ.ค.นี้ ดีเซล 32/ลิตร กลุ่มรถขนส่งจ่อปรับราคา ชาวบ้านกระอักค่าครองชีพพุ่ง

กลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสินค้า จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หากผลประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับราคาขายปลีกดีเซลแบบขั้นบันไดเป็น 32 บาท/ลิตร ตั้งแต่ 1 พ.ค.นี้ โดยกำหนดเพดานใหม่ให้ปรับขึ้นสูงสุดไม่เกิน 35 บาท/ลิตรนั้น ส่งผลกระทบหลายๆ ด้านแน่นอน ซึ่งกลุ่มรถขนส่งสินค้า คงต้องปรับอัตราค่าบริการกันใหม่ ด้านกลุ่มรถโดยสารสี่ล้อแดง นครเชียงใหม่ ระบุว่าราคาน้ำมันที่ปรับกันใหม่นั้น ไม่เพียงจะทำให้ ผู้ประกอบอาชีพรถบริการผู้โดยสารที่เป็นสี่ล้อแดง ทยอยหายไป เพราะแบกรับค่าน้ำมันไม่ไหว อย่าลืมเติม 100 บาท ได้ 3 ลิตร แล้วลองคิดดู รถแดงต้องวนรอบ หาผู้โดยสาร เป็นรถสภาพเก่าๆ กันเป็นส่วนใหญ่ จะวิ่งได้กี่รอบเมืองกัน

“คิดค่าบริการ 30 บาท หรือตามตกลงกับผู้โดยสาร กว่าจะหาคนมาขึ้นรถมาใช้บริการได้ จอดแช่รอคนตามสถานที่ต่างๆ ก็แล้ว วนหาหลายรอบในเมือง พอขอขยับราคาค่าโดยสารก็โดนด่าอีก ทุกวันนี้หากินกับรายได้ 3-4 ร้อย บาท เป็นเรื่องยากลำากมากกับสภาพบ้านเมืองแบบนี้” ในขณะที่นายประกิจ พลวัช วัย 40 ปี

ซึ่งเข้าร่วมรถบริการขนส่งพัสดุแบบอิสระย่านสันทราย เชียงใหม่ กล่าวว่า ถ้าดีเซลราคา 32-35 บาท คงต้องพูดคุยกับร้านที่ ฝากส่งพัสดุกันแบบรายเดิอน ขอปรับราคาตามกลไกตลาด ซึ่งยอมรับว่ากังวล เพราะตลาดมีการแข่งขันสูง ไปต่อรองมาก อาจไม่ได้งานขนส่งที่เคยตกลงกัน คงต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ในช่วง 1-2 เดือนว่า เหลือพออยู่ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามผู้บริหาร ขนส่งสินค้ารายใหญ่ ในภาคเหนือกล่าวว่า ปัจจุบันรัฐอุดหนุนดีเซลที่ 30 บาท/ลิตร การปรับขึ้นเพดานใหม่ไม่ให้เกิน 35 บาท/ลิตร คงต้องหาทางแก้ไข กับต้นทุนที่พุ่งพรวดขนาดนี้ แต่อย่าลืมว่า ก่อนนั้นในช่วงปี 2551 ดีเซลเคยขึ้นสูงสุดที่ 43.64 บาท/ลิตร

“ผลกระทบจากราคาขนส่งสินค้า ย่อมจะกลายเป็นต้นทุนผันแปร ที่ผู้ประกอบการ นำไปบวกในต้นทุน ซึ่งจะมีผลต่อราคาสินค้า แม้จะมีการเรียกร้อง ปรับค่าจ้างในอัตราใหม่ ตราบใดที่ ราคาสินค้าค่าครองชีพขยับกันแบบนี้ ขนาดขนส่งรายใหญ่ๆยังต้องหาธุรกิจอื่นมาเสริม บรรดารายย่อย ทั้งรถโดยสาร รถขนส่งสาธารณะ คงอยู่กันลำบาก น่าเห็นใจ แต่กลไกตลาด ประกอบกับภาวะแหล่งผลิต ตลาดน้ำมันโลกยังผันผวน การเตรียมรับมือของทุกภาคส่วน ก็ต้องปรับตัวให้รอดกับสภาวะที่เกิดขึ้นด้วย”