(มีคลิป) มหกรรมการค้า ชายแดนไทย-เมียนมา

กระทรวงพาณิชย์ จัดงานมหกรรมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา 65 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้า การลงทุนให้กับผู้ประกอบการค้าชายแดน ระหว่างไทยและเมียนมา ได้พบปะแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างกัน

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.65 ที่ผ่านมา นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา Thaland Border Trade Fair 2022 @ MAE HONG SON ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้นที่อาคารยิมเนเซียม โรงเรียน อบจ.บ้านจองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 28-30 เม.ย 65 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้า การลงทุนให้กับผู้ประกอบการค้าชายแดนระหว่างไทยและเมียนมา ได้พบปะแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างกัน

โดยกิจกรรมหลักภายใต้งานมหกรรมการค้าชายแดน ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ 1.การแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการไทย และผู้ประกอบการประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 80 บูธ จำพวก สินค้าอาหารแปรรูป เครื่องแต่งกาย สมุนไพร และของที่ระลึก 2.กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและเมียนมา ตลอดจนผู้ประกอบการจาก สปป.ลาว ซึ่งเดินทางมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้มากกว่า 20 บริษัท 3.การจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านการใช้สิทธิประโยชน์ด้านการค้าชายแดนแก่ผู้ประกอบการ และ 4.การประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหา และอุปสรรคด้านการค้าชายแดน

ทั้งนี้ นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เดชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมการค้าต่างประเทศ ได้ดำเนินตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการเร่งรัดผลักดันส่งเสริมการค้าชายแดน และการค้าผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประชาชน ที่ผ่านมาถึงแม้จะประสบปัญหากับสถานการณ์โควิด-19 จะเห็นได้ว่ามูลค่าการค้าชายแดนของไทย จะเป็นประตูหลักที่สามารถส่งออกไปได้ และนอกจากนี้ทางนายจุรินทร์ ฯ พยายามที่จะผลักดันเปิดด่านชายแดน ให้สามารถค้าขายได้อย่างถาวรให้ได้มากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมานายจุรินทร์ฯ มีการลงพื้นที่ร่วมประชุมกับภาครัฐและเอกชน เพื่อรับทราบปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อนำมาแก้ไขและหาแนวทาง เพื่อให้สามารถเปิดจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้อย่างเสรีอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นให้มีงานมหกรรมทางการค้าชายแดน ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปีนี้มีแผนดำเนินการอยู่ใน 8 จังหวัด ได้แก่ จ.นครพนม แม่ฮ่องสอน สงขลา มุกดาหาร สระแก้ว ยะลา เชียงราย และ จันทบุรี ซึ่งนอกจากจะเป็นการมุ่งเน้นให้ SME s ที่มีศักยภาพได้ส่งออกแล้ว ยังเป็นการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกันนี้ทางกรมการค้าต่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ มีการจัดสัมมนาให้ความรู้ โดยเฉพาะในปีนี้มีการค้าเสรีที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งจะต้องให้ความรู้ในเรื่องการส่งเสริมการค้าไปยังต่างประเทศนั้น ว่า เรามีสิทธิทางการค้าเพื่อที่จะลดภาษี เพราะบางรายสินค้าภาษีจะเท่ากับศูนย์ และปีนี้ยังเป็นปีพิเศษที่ได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank ) ที่จะสนับสนุนเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องสำหรับ SMEs ที่จะส่งออกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น