ปัดไม่เกี่ยวข้องกับ รปภ.ก่อเหตุชกต่อยญาติผู้ป่วย

นายกสมาคมทหารผ่านศึกเชียงรายฯ บอกปัดไม่เกี่ยวข้องกับ รปภ.ก่อเหตุชกต่อยญาติผู้ป่วย หลังเมาป่วนห้องฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีพนักงานรักษาความปลอดภัย รพ.ดังกลางเมืองเชียงรายก่อเหตุชกญาติผู้ป่วยที่ไปเมาป่วนห้องฉุกเฉิน หลังควบคุมตัวญาติผู้ป่วยออกจาก รพ.ไปยังถนนฝั่งตรงข้ามห้องฉุกเฉิน และฝั่งญาติผู้ป่วยพูดจายั่วยุ จนหนึ่งใน รปภ.ได้เกิดบันดาลโทสะจึงชกญาติผู้ป่วยไป และมีผู้บันทึกวีดีโอเอาไปเผยแพร่ในสื่อโซเซียลจนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง และต่อมามีข้อมูลเพิ่มเติมว่า รปภ. คนก่อเหตุและกลุ่มที่อยู่ในร่วมที่เกิดเหตุเป็นสมาชิกของสมาคมทหารผ่านศึก จ.เชียงราย

ในกรณีนี้ นายบุญส่ง ศรีจุมปา นายกสมาคมทหารผ่านศึก เผยว่า ทางสมาคมทหารผ่านศึกไม่มีส่วนเกี่ยวของกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไดๆทั้งสิ้น เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และมีเรื่องราวกับญาติผู้ป่วยตามวันเวลาที่เราได้ทราบข่าวกัน ทางสมาคมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง เพียงแต่จะมีสมาชิกของสมาคมฯบางส่วนได้เข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งผู้ที่จะสมัครเป็น รปภ. ขององค์การทหารผ่านศึกจะมาจากหลากหลายสถานะ บางคนก็เป็นทหารผ่านศึก บางคนก็เป็นทหารกองหนุน บางส่วนก็มาจากครอบครัวของทหารผ่านศึกหรือทหารกองหนุน ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกของสมาคมมีงานทำ มีรายได้ โดยการส่งคนที่ต้องการทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ไปเข้ารับการอบรมจากกองการรักษาความปลอดภัย องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ที่กรุงเทพฯ เมื่อผ่านการฝึกอบรมกลับมาแล้วทางองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจะส่งไปทำงานตามจุดต่างๆที่มีการจ้างงาน ก็จะถือว่าสำเร็จตามภารกิจของสมาคมทหารผ่านศึกที่จะส่งเสริมสมาชิกได้มีงานทำ

“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่นอกเหนือการควบคุมของสมาคมฯ ทางสมาคมทหารผ่านศึกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามทราบมาว่าองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์และโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไปแล้ว ในส่วนของการพิจารณาตัดสินโทษทางวินัยของ รปภ.ดังกล่าว เป็นเรื่องที่ทางคู่สัญญาจะหารือร่วมกัน ซึ่งทางสมาคมฯไม่มีอำนาจจะไปก้าวล่วงการทำงานตรงส่วนนั้น ต้องปล่อยให้เป็นไปตามสายงานการบังคับบัญชาขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก” นายบุญส่ง กล่าว

ด้าน นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า หลังจากทราบเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ทางโรงพยาบาลและองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกได้หารือร่วมกันเพื่อพิจารณาบทลงโทษแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลคงจะไม่ให้ รปภ.คนก่อเหตุกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลอีกแล้ว เพราะถือว่าโรงพยาบาลเป็นสถานที่สำหรับช่วยคน ไม่ใช่สถานที่ทำร้ายคน ถึงจะอ้างว่าถูกยั่วยุก็ไม่ใช่เหตุผลให้ใช้กำลังในการแก้ปัญหา ส่วน รปภ.คนอื่นที่อยู่ร่วมเหตุการณ์แต่ไม่ห้ามปรามเพื่อนร่วมงานก็อาจจะไม่ให้มาทำงานที่โรงพยาบาลด้วยเช่นกัน

“การทำงานร่วมงานระหว่างโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เป็นสัญญาปีต่อปี หากไม่พึงพอใจก็อาจพิจารณาผู้ประกอบการรายอื่น แต่ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลและองค์การฯต่างก็เป็นส่วนหนึ่งในหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งต่างก็พึ่งพาอาศัยกันมาตลอด อาจจะพิจารณาโทษเป็นรายบุคคลไป กรณีนี้ทางโรงพยาบาลได้แค่กำหนดมาตรการห้ามคนที่ก่อเรื่องกลับมาทำงานที่โรงพยาบาล แต่บทลงโทษทางวินัยอื่นๆก็เป็นเรื่องที่ทางองค์การฯจะไปพิจารณาลงโทษกันเอง” นพ.ไชยเวช กล่าว