ตรวจการแผ่นดินแนะท้องถิ่นทำตามข้อแนะนำ

แนวทางคุมเปิดคาราโอเกะ ตรวจการแผ่นดินแนะท้องถิ่นทำตามข้อแนะนำทุกพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้แจ้งเรื่องผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีข้อร้องเรียนกิจการร้านอาหารซึ่งส่งเสียงดังก่อความรำคาญ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนและการไม่ควบคุมร้านอาหารทำให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในเวลาที่กฎหมายห้ามจำหน่ายได้ ไปยังทุกจังหวัด

นอกจากนั้น กสถ.ยังมีข้อแนะนำให้ทุกจังหวัดแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณาจัดทำตัวอย่างหรือต้นแบบร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น เพื่อควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประเภทาราโอเกะ เพื่อให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้เป็นแนวทาง ประกาศข้อบังคับใช้ต่อไป

ทั้งนี้ กสถ.ระบุว่า พรบ.การสาธารณสุข พศ.2535 มาตรา 32 และในส่วนมาตรา 31 นั้น มีข้อบัญญัติ แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับ มาตรการป้องกันอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งกิจการคาราโอเกะ เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามประกาศ กระทรวงสาธารณสุข เรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อ สุขภาพ พศ.2558 ชัดเจนอยู่แล้ว

อีกทั้งกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน แนะนำนั้น เป็นไปตามแนวทางที่ ประชาชน มีข้อร้องเรียน และคณะทำงาน ได้ติดตาม ปัญหา จนนำมาสู่ คำวินิจฉัย ให้ ยุติเรื่องร้องเรียน และการสรุปแนวทาง หลักเกณฑ์ ที่เหมาะสม ให้ อปท. นำไปปฏิบัติ ดังนั้น กสถ.จึงได้จัดทำตัวอย่างข้อบัญญัติให้ อปท.นำไปปรับใช้ตามเหมาะสม ในแต่ละพื้นที่

“โดยแนวทางที่นำเสนอนั้นจะมีทั้งพื้นที่ให้บริการ ส่วนแสดงดนตรี บริเวณที่นั่งฟัง ห้องน้ำ ลานจอดรถ การขออนุญาตชุมชนใกล้เคียงรูปแบบอาคาร ตามแนวทางการควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ” อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร สถานบันเทิงในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ระบุว่า ร้านคาราโอเกะ ร้านอาหาร ที่เป็นแบบปิดนั้น ส่วนใหญ่ แทบไม่มีโอกาสเปิดบริการอยู่แล้ว หากไม่ ปรับปรุงแก้ไข ตามที่ ฝ่ายปกครอง และ ศบค. อำเภอ แนะนำ รวมถึง

ข้อหารือ ผลสรุปที่ อปท.เรียกผู้ประกอการร่วมประชุม ชี้แจงดำเนินกิจการสถานบันเทิง ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ หากยึดตามกรอบแนวทางที่มีการประกาศล่าสุดออกมา โดยอ้างคำวินิจฉัยของ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็เป็นเรื่องดี ที่จะไม่มีปัญหากับ ชุมชน ชาวบ้านในละแวกใกล้สถานบริการ สถานบันเทิงเหล่านั้น แต่ปัญหาใหญ่คือ จะมี กิจการ สักกี่ร้าน กี่แห่ง ที่ดำเนินธุรกิจได้ เพราะเป็นช่วงจะเข้าสู่ฤดูฝน และกำลังซื้อลดลง แค่ร้านทั่วๆ ไป รายได้ยังแทบไม่พอจ่ายค่าเช่า ค่าจ้างพนักงานเลย ทยอยรอเจ๊งเป็นแห่งๆ ไปที่ผ่านๆ มา ตลาดนักท่องเที่ยว จากต่างถิ่น จะนิยม ไปใช้บริการตามแหล่งบันเทิง ที่อยู่ในกระแส ของแต่ละ อำเภอ จังหวัด

แต่เมื่อมีสถานการร์โควิด-19 เกิดขึ้น กิจการ กลุ่มร้านอาหาร สถานบันเทิง เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ต้องปฏิบัติตามแนวทางของศบค.ในการควบคุม ป้องกันโควิด-19 และเป็นกิจการกลุ่มสุดท้ายที่จะได้รับการ อนุญาต พิจารณาให้เปิดบริการ ซึ่งปัจจุบันจะเหลือสถานบันเทิง ร้านคาราโอเกะน้อยมาก ส่วนใหญ่ ปรับพื้นที่
เป็นลาน ร้านอาหาร แบบเปิดโล่งทั้งนั้น ถ้าจะปักหลัก ในแวดวงบันเทิง แหล่งพักผ่อนของกลุ่มลูกค้าต่อ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น