สาววัย 37 ปี ขนยาบ้า จนมุมด่านตรวจ สภ.แม่ทา

สาววัย 37 ปีขนยาบ้าจนมุมด่านตรวจ สภ.แม่ทา

เมื่อเวลา 02.40 น. คืนวันที่ 14 พ.ค. 2565 โดยการอำนวยการ พ.ต.อ.อำนวย คำจอง ผกก.สภ.แม่ทา จว.ลำพูน, พ.ต.ท.ยุทธนา ใจการ รอง ผกก.ป สภ.แม่ทาฯ พ.ต.ต.ทินกร เพ็ญศิริวรรณกุล สวป.สภ.แม่ทาฯชุดจับกุม ประกอบด้วร.ต.อ.สิริชัย ไทยกรรณ์ รองสวป.สภ.แม่ทา หน.ชป. กับพวกได้จับกุมตัวผู้ต้องหาเป็นหญิง (ขอสงวนชื่อ – นามสกุล) อายุ 37 ปี โดยมีของกลาง ยาบ้าชนิดเม็ดกลมแบนสีส้ม มีอักษร Wy ประทับ จำนวน 200 เม็ด และยาบ้าชนิดเม็ดกลมแบนสีเขียว มีอักษณ Wy ประทับ จำนวน 2 เม็ด รวมประมาณ 200 เม็ดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีชนิดกดปิดรูดเปิด จำนวน 10 ถุง พันห่อด้วยเทปกาวสีน้ำตาล เป็นมัดๆ ละประมาณ 202 เม็ด จำนวน 10 มัด รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 20,200 เม็ด เงินสดจำนวน 29,000 บาท รถยนต์ยี่ห้อ MG สีเหลืองทะเบียน กท xxxx และโทรศัพท์มือถือ OPPA สีดำ รุ่น A15

ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ทา จว.ลำพูน ชุดจับกุมได้ร่วมกันตั้งด่านตรวจบนถนนสายเชียงใหม่ -ลำปาง ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จว.ลำพูน เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและปราบปรามยาเสพติดตามแผนยุทธศาสตร์ภาค 5 ในช่วงระยะเวลา 02.01-05.00 น. จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.40 น. พบรถยนต์ ยี่เอ็มจี สีเหลือง ติดแผ่นป้ายทะเบียน กท xxxx แพร่ แล่นเข้ามาในด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกหยุดและขอตรวจสอบผู้ขับรถคันดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะท่าทางพิรุธน่าสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจค้นรถ

ผู้ขับรถ รับทราบสมัครใจและยินยอมให้ทำการตรวจค้น พบถุงพลาสติกวางไว้ที่พักเท้าที่นั่งผู้โดยสารจำนวน 1 ถุงจึงได้ร่วมกันเปิดออกมาดู พบว่ามีห่อยาเสพติดซุกซ่อนอยู่เมื่อแกะออกมาพบว่าเป็นยาบ้าชนิดเม็ดกลมแบนสีส้ม มีอักษร Wy ประทับ จำนวนประมาณ 200 เม็ด และยาบ้าชนิดเม็ดกลมแบนสีเขียว มีอักษณ Wy ประทับ จำนวน 2 เม็ด รวมประมาณ 202 เม็ดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีชนิดกดปิดรูดเปิด จำนวน 10 ถุง พันห่อด้วยเทปกาวสีน้ำตาล เป็นมัดๆ ละประมาณ 2,020 เม็ด จำนวน 10 มัด รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 20,200 เม็ด

จากการสอบถามผู้ขับรถ ยอมรับว่าของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหาในความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ได้แจ้งสิทธิให้ทราบและนำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทา จว.ลำพูน เพื่อดำเนินคดีให้ได้รับโทษตามกฎหมายสูงสุดต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น